ฃ15 ก.พ.62 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม.กล่าวเปิดเผยว่า ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม./รอง ผอ.ศปอส.ตร. , พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผบช.ทท. ได้รับร้องเรียนจากประชาชนกว่า 30 คน ซึ่งตกเป็นเหยื่อกลุ่มมิจฉาชีพ หลอกลวงนำเงินมาลงทุนซื้อยาจากบริษัทขายราคาถูกกว่าท้องตลาดเพื่อขายส่งให้ร้านขายยาทั่วไป มูลค่าความเสียหายมากกว่า 300 ล้านบาท เข้าข่ายกระทำความผิดฐาน ฉ้อโกง จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และประสานพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ดำเนินคดีตามกฎหมาย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่ามิจฉาชีพกลุ่มนี้มี นายเติมพงษ์ แสนสุภา ซึ่งมีพฤติการณ์ชักชวนกลุ่มผู้เสียหายให้นำเงินมาลงทุนซื้อยาจากบริษัทขายยา ซึ่งนายเติมพงษ์ อ้างว่าสามารถติดต่อซื้อยาได้ในราคาถูกกว่าท้องตลาด เพื่อนำมาขายส่งให้กับร้านขายยาทั่วไป โดยได้ผลกำไรจากส่วนต่างราคาซื้อขายยาและการันตีผลตอบแทน 5-30% ต่อเดือน ช่วงแรกได้รับผลตอบแทนจริงจึงเพิ่มจำนวนเงินลงทุนและชักชวนผู้อื่นให้ร่วมลงทุนด้วย ทำให้มีเงินหมุนเวียนในเครือข่ายประมาณ 1,500 ล้านบาท ต่อมาเมื่อถึงกำหนดนายเติมพงษ์ ไม่จ่ายผลตอบแทนตามที่ได้ตกลงไว้ และบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวงได้รับความเสียหาย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน. วังทองหลาง ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับนายเติมพงษ์ ผู้ต้องหาต่อศาลแขวงพระนครเหนือ ในความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ต้องระวางโทษ "จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ต่อมาเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 ชุดปฏิบัติการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ติดตามจับกุมตัว นายเติมพงษ์ แสนสุภา นำส่งพนักงานสอบสน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินคดีต่อไป