ปัญหาเรื่องความประพฤติและศีลธรรมของเยาวชนจึงเป็นปัญหาที่ใหญ่และสำคัญ ควรจะได้รับความสนใจจากคนทั้งประเทศ เหตุผลในเรื่องนี้ก็เห็นจะไม่ต้องพูด เพราะเหตุว่าเยาวชนนั้นก็จะเป็นผู้ที่ครอบครองประเทศของเราในอนาคตอันไม่ไกลนัก และถ้าหากว่ามีความประพฤติเสื่อมเสียหรือมีศีลธรรมย่อหย่อนเสียแต่ยังเป็นเด็กแล้ว ต่อไปอนาคตของประเทศของเราจะเป็นอย่างไรก็พอจะเดากันออก แต่ถ้าหากว่าเยาวชนในปัจจุบันนั้นได้รับการอบรม มีศีลธรรมสูง มีความประพฤติดีแล้ว อนาคตของประเทศไทยเราก็จะต้องแจ่มใสและรุ่งเรืองต่อไปโดยไม่มีปัญหา เพราะฉะนั้นการสร้างหรือพัฒนาจิตใจของเยาวชนจึงสำคัญไม่น้อยไปกว่าการพัฒนาในด้านอื่นของประเทศ การปลูกฝังศีลธรรมจรรยาให้กับเยาวชนนั้น อาจจะทำโดยตรง คือการอบรม แนะนำด้วยคำพูด การเรียนในโรงเรียน ฯลฯ แต่ที่สำคัญที่สุดคือการทำตัวเป็นแบบอย่าง “การอบรมเยาวชนนั้น ในประการแรกทำได้ด้วยตัวอย่าง คือเยาวชนนั้น ก็อย่างที่ผมได้กล่าวมาแล้วว่า ชอบเลียนแบบ การชอบเลียนแบบนั้น เลียนได้ทั้งแบบที่ดีและแบบที่ชั่ว คนที่อยู่ใกล้ชิดเยาวชนที่สุดก็คือบิดามารดาญาติพี่น้องของเยาวชนนั้นเอง ถ้าหากว่าบิดามารดาหรือญาติผู้ใหญ่ของเยาวชนนั้นประพฤติตนไปในทางใด เยาวชนก็จะถือเป็นแบบอย่าง เพราะเหตุว่าเด็กย่อมไม่มีวิจารณญาณรู้ผิดรู้ชอบเท่ากับผู้ใหญ่ ด้วยเหตุนี้ หากว่าคนที่เป็นผู้ใหญ่ในปัจจุบันคือบิดามารดาญาติพี่น้องของเด็กนั่นเอง ประพฤติตนไปในท่งที่เสื่อมเสีย หรือถึงไม่เสื่อมเสียแต่ประพฤติตนไปในทางย่อหย่อนศีลธรรมก็ดีหรือในทางความประพฤติทั่ว ๆ ไปก็ดี สิ่งเหล่านี้เป็นเหตุสำคัญที่ทำให้เยาวชนมีความเสื่อมในศีลธรรมและมีความประพฤติย่อหย่อนลงไปด้วย เพราะเมื่อเด็กเห็นผู้ใหญ่ทำอย่างนั้นได้ เด็กก็ย่อมจะเลียนแบบและจะพยายามทำตาม ธรรมดาเด็กทุกคนย่อมนับถือบิดามารดาและญาติพี่น้องผู้ใหญ่ เมื่อบิดามารดาญาติพี่น้องผู้ใหญ่ทำสิ่งใด ก็ย่อมจะต้องถือว่า สิ่งนั้นถูกไว้ก่อน ที่พูดโดยทั่ว ๆ ไป ก็อาจจะมียกเว้นสำหรับเด็กที่ฉลาด มีวิจารณญาณสูง ก็อาจจะมองเห็นผิดไม่ยอมกระทำตาม แต่อย่างไรก็ตามเด็กโดยทั่ว ๆ ไปแล้ว ก็มักจะถือว่าที่ผู้ใหญ่ทำนั้นเป็นของถูก เป็นของที่ควรจะปฏิบัติตามได้ เพราะฉะนั้นความประพฤติของเยาวชนในประเทศเราจะดีหรือเลวอย่างไรนั้น ขึ้นแก่ความประพฤติของผู้ใหญ่เป็นส่วนมาก ถ้าหากว่าผู้ใหญ่ประพฤติไม่ดีแล้ว เด็กก็ย่อมจะประพฤติไม่ดีตามไปด้วย และเมื่อเด็กประพฤติไม่ดีตามผู้ใหญ่ทางบ้านแล้ว ภาระของครูทีจะอบรมแก้ไขให้ดีขึ้นนั้นเป็นของที่ยากยิ่ง เพราะเหตุว่าถึงแม้เด็กจะนับถือครูบาอาจารย์ก็ตามที แต่ว่าก็ไม่เกินบิดามารดา และถ้าครูจะไปตำหนิการกระทำบางอย่างหรือความประพฤติบางอย่างที่อาจจะไปกระทบกระเทือนต่อความประพฤติของบิดามารดาเด็กเข้า ก็อาจจะทำให้เด็กเคือง รู้สึกเสียใจในคำพูดของครู เป็นเหตุให้หมดความเชื่อถือเลื่อมใสลงไปก็ได้ อาจจะไม่ฟังครูในขณะที่ครูอบรมก็ได้เพราะฉะนั้นทางที่แก้ความประพฤติของเยาวชน ตามความเห็นส่วนตัวของผมก็อยู่ที่ผู้ใหญ่นั้นเอง คนที่มีบุตรหลานอยู่ในความปกครองควรจะต้องระมัดระวัง (“เพื่อนนอน” วันที่ 30 สิงหาคม 2505) การที่เป็นห่วงวิพากษ์วิจารณ์กันมากเรื่องศีลธรรม ความประพฤติของเยาวชนนั้น การเริ่มต้นปรับปรุงแก้ไขจึงอยู่ที่ ต้องทำให้ผู้ใหญ่มีศีลธรรมและจรรยาดีขึ้น