ดร.วิชัย พยัคฆโส [email protected] “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” เป็นสโลแกนของนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ไม่เพียงแต่จะไม่ยอมทิ้งใครไว้ข้างหลังกับประชาชนคนไทยแล้ว ยังปฏิบัติการไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเซียอีกด้วย ผมเพิ่งจะรู้จักกับสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน(องค์การมหาชน) (สพพ.) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระภายใต้พระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง สพพ. เมื่อไป พ.ศ.2548 สังกัดกระทรวงการคลังในการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน (Financial Assistance) และวิชาการ (Technology Assistance) แก่ประเทศที่ยังต้องการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานในประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ คือ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม และขยายวงไปยังประเทศในภูมิภาคเอเซียอีก 3 ประเทศ ได้แก่ ภูฎาน ศรีลังกา และติมอร์-เลสเต อีกด้วย นับเป็นองค์กรอิสระเล็กๆ แต่ทำงานข้ามประเทศด้วยการช่วยส่งเสริมและสร้างโครงสร้างพื้นฐานและความช่วยเหลือด้านวิชาการ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นผู้ก่อตั้งอาเซียน ที่มีฐานะดีกว่าและเป็นศูนย์กลางแห่งการพัฒนาในกลุ่มนี้ โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐ เอกชน และหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาที่สำคัญในภูมิภาค เช่น ธนาคารพัฒนาเอเซีย (ADB) องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JIGA) และกองทุนความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ (EDCF) เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goal:SDGs) ของสหประชาชาติ ซึ่งยอมรับ 17 ข้อ แบบยั่งยืน โดยยกให้ไทยเป็นต้นแบบของการพัฒนาตามทฤษฎีของเศรษฐกิจพอเพียงให้กับประเทศที่ด้อยการพัฒนา รูปแบบของการช่วยเหลือมีทั้งการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะถนนที่เชื่อมโยงกันในอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยมีทั้งเงินกู้ ปลอดหนี้ 10 ปี ดอกเบี้ยร้อยละ 1 กับการให้เปล่ากับความช่วยเหลือทางวิชาการ โดยคนไทยที่มีความสามารถจะเข้าไปช่วยเหลือและให้ความร่วมมือโดยการร้องขอจากสมาชิกในโครงการที่ สพพ. จะเป็นผู้คัดเลือกให้ความช่วยเหลือ เพื่อให้ได้ประโยชน์ของประเทศสมาชิกและเชื่อมโยงกับประเทศไทยในอนาคตอีกด้วย การช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังพัฒนาให้สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศของตนเองได้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างระหว่างไทยกับเพื่อนบ้านให้เป็นที่ยอมรับว่าเราต้องเดินไปด้วยกัน หมายความว่าไทยจะต้องยืนอยู่บนขาของตัวเองได้ก่อน นับเป็นโครงการที่สร้างสัมพันธภาพอันดีระหว่างกัน ปูทางไปสู่ความรุ่งเรืองในอนาคต แม้ว่าจะเพียงองค์กรเล็กๆแต่ได้สร้างกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อประเทศในทางตรงและทางอ้อม ซึ่งเป็นบริบทของความร่วมมือระหว่างประเทศ เพราะประเทศไทยมิได้ยืนอยู่บนโลกนี้แต่เพียงผู้เดียว แต่มีเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วยกันในอนาคต