“การเมือง” คือการจัดสรรแบ่งปันผลประโยชน์ภายในสังคม การจัดสรรแบ่งปันนั้นจำเป็นต้องมีจริยธรรมกำกับ สังคมจึงจะสงบสันติผาสุก เราเรียกกสังคมในฝันนั้นว่า “สัคมธรรมธิปไตย” แต่ในความเป็นจริง สังคมทุกระดับ ย่อมมีผู้นำและสมาชิกสังคมในระดับต่าง ๆ ประกอบเข้าด้วยกัน คุณสมบัติของผู้นำ การคัดสรรผู้นำ มีความสำคัญมาก อย่างไรก็ตามคุณสมบัติของสมาชิกสังคมนั้น ๆ ก็มีความสำคัญมากเช่นกัน ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย ผู้นำได้มาจากการเลือกตั้งโดยพลเมือง จะมีผู้นำที่ดีมีศีลธรรม ก็ต้องมาจากพลเมืองที่ดีมีศีลธรรมสนับสนุนให้คะแนนเสียงเลือกตั้งเขาขึ้นมา สังคมธรรมาธิปไตยจึงชี้ขาดอยู่ที่พลเมืองนั่นเองการสร้างสังคมธรรมาธิปไตย คนส่วนใหญ่คงจะนึกถึงสังคมระดับประเทศชาติ เมื่อนึกถึงภารกิจใหญ่โตระดับนั้น บางคนอาจเห็นเป็นเรื่องใหญ่เกินกำลัง เราจึงอยากให้นึกถึงสังคมระดับเล็ก ๆ ก่อน เริ่มตั้งแต่ในครัวเอนเรา ในตรอกเรา ในชุมชนหรือหมู่บ้านเรา ในตำบลเรา ฯ มาช่วยคิดสร้างสังคมธรรมาธิปไตยระดับใกล้ตัวของเรากันก่อน แล้วเมื่อรวมกันเข้าเป็นสังคมระดับใหญ่ขึ้น มันก็จะเห็นผลความก้าวหน้า ผลความสำเร็จ เราก็จะมีกำลังใจสร้างสรรค์กันต่อไปมากขึ้น การสร้างสังคมธรรมาธิปไตย ไม่ใช่สำคัญอยู่ที่การพัฒนาหรือการสร้างผู้นำเท่านั้น สังคมไม่ว่าระดับใดก็ตาม ไม่มีทางจะได้ผู้นำที่ดีจริง ๆ ถ้าหากสมาชิกส่วนข้างมากของสังคมนั้น ๆ เป็นคนไม่ดี เนื้อหาการสร้างสังคมธรรมาธิปไตย ที่สำคัญก็คือการสร้างสมาชิกสังคมให้เป็นคนดี มีศีลธรรม ซื่อสัตย์ สุจริต มีสติปัญญา ตัดสินความดีความชั่วคนดีคนชั่วได้ เมื่อมองในสังคมระดับประเทศ คือการสร้าง “พลเมืองดี” ที่มีสติปัญญา แยกแยะตัดสินความดีความชั่วคนดีคนชั่วได้นั่นเอง ผู้นำทางการปกครองในระบอบประชาธิปไตยมาจากการเลือกตั้ง คนที่ต้องการเป็นผู้นำทางการปกครองระบอบประชาธิปไตยจึงจำเป็นต้องเข้าไปทำงานการเมือง แต่การทำงานการเมืองนั้น ง่ายที่จะถูกหล่อหลอมให้กลายเป็น “นักเลือกตั้ง” ที่ด้อยคุณสมบัติที่จะเป็นผู้นำการสร้างสังคมธรรมาธิปไตยไป การพัฒนา การสร้างผู้นำที่ดี เพื่อให้พลเมืองคัดสรรขึ้นมาเป็นผู้นำสังคมระดับประเทศนั้นสำคัญอย่างยิ่ง และเป็นปัญหาเร่งด่วน แต่การที่จะคัดสรรได้ผู้นำที่ดีนั้น จำเป็นต้องอาศัยเสียงสวรรค์จากพลเมืองผู้ออกเสียงเลือกตั้ง ดังนั้นความจำเป็นที่จะต้องสร้าง ต้องพัฒนาพลเมืองไทย ให้เป็น “พลเมืองดี” รู้จักเลือกผู้นำที่ดีในการสร้างสังคมธรรมาธิปไตยขึ้นมาเป็นผู้นำของประเทศ จึงมีความสำคัญยิ่งกว่าการพัฒนาผู้นำเสียอีก.