สถาพร ศรีสัจจัง พระราชสาส์นของล้นเกล้ารัชกาลที่ 4 ได้แสดงให้เห็นชัดแล้วว่า บรรพชนของพระองค์นั้นเป็นคนจีนสายตรงจากเมืองปักกิ่งทีเดียว มีต้นตระกูลเป็น “แซ่ตัน” (ฮกเกี้ยน) ที่อ่านเป็นจีนกลางได้ว่า “แซ่เฉิน” เป็นแซ่ใหญ่ที่แตกเหล่ากอทั้งสายตรงสายอ้อมออกไปมากมาย มีบรรพชนที่มีเกียรติ มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จีนเป็นอันมาก ก่อนที่จะโยงเป็นประเด็นใหม่ขึ้นให้เห็นว่า คนจีน “แซ่เฉิน” หรือ “แซ่ตัน” นั้นในภายหลังมาเกี่ยวดองโยงใยกับคนมอญที่อพยพเข้ามาพึ่งแผ่นดินสยามเยี่ยงเดียวกันอย่างไรบ้าง ตอนนี้จะขอยก “คนแซ่ตัน” ที่น่าสนใจอีกสักสายตระกูลหนึ่งก่อน แม้คนแซ่เฉินหรือคนแซ่ตันในเมืองไทยปัจจุบัน จะแตกออกไปเป็นก๊กเล็กก๊กใหญ่อีกเป็นจำนวนมาก และในบรรดาผู้สืบเชื้อสายแซ่ตันเหล่านั้นก็ล้วนมีชื่อมีเสียง มีเกียรติภูมิบารมีกันไม่น้อย เช่น ตระกูล “โสภณพนิช” ตระกูล “เกยุราพันธุ์” หรือตระกูล “ด่านไพบูลย์” ตระกูล “ชุณหะวัณ” ตระกูล “วสุรัตน์” ฯลฯ ก็เถอะ แต่ช่วงนี้จะขอกล่าวถึงเพียงตระกูลเดียว คือคน “แซ่ตัน” ที่สืบทอดสายตรงมาจาก“ตัน ปุ่ย” ชาวจีนจากมณฑลฮกเกี้ยน ยุคพระนางซูสีไทเฮา (ยุคกบฏนักมวย) ที่แตกคอแตกความคิดกับพวกกบฎนักมวย จนตัดสินใจขนเสบียง และพลพรรค(และอาวุธ? เพราะฟังว่า ตัน ปุ่ย คนนี้เป็น “สายบู๊” หรือถ้าพูดแบบคนภาคใต้ยุคก่อนก็ว่า เป็น “คนนักเลง” นั่นแหละ!) ขึ้นสำเภามุ่งมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารแห่งแผ่นดินสยาม โดยมาขึ้นฝั่งที่เมืองสงขลาซึ่งขณะนั้น (ช่วงแผ่นดินรัชกาลที่ 3) มีเจ้าเมืองเป็นชาวจีนฮกเกี้ยนด้วยกัน (คือพระยาวิเชียรคีรี หรือ เถี้ยนเส้ง ณ สงขลา) เป็นช่วงยามที่พระยาตานีและพวกเป็นกบฏยกพลบุกเข้าตีเมืองสงขลาพอดี ตันปุ่ยรับอาสาปราบกบฏ ตีโต้ตามไปจนถึงเมืองปัตตานี และ ยึดเมืองปัตตานีได้ จากความดีความชอบนี้จึงได้รับโปรดเกล้าแต่งตั้งให้เป็น “กับปิตันจีน” ได้ราชทินนามว่า “หลวงสำเร็จกิจกรจางวาง” เป็นนายกองหัวหน้าคนจีนในปัตตานี และให้มีหน้าที่คอยประสานความขัดแย้งระหว่างคนมลายูกับเจ้าเมืองคนไทยและพ่อค้าคนจีน บุตรของนายปุ่ย แซ่ตัน คนสำคัญที่ได้รับสืบทอดตำแหน่ง “กับปิตันจีน” จากบิดาผู้ล้ำวิทยายุทธคือ “ตันจูล่าย” ซึ่งต่อมามีผลงานราชการจนได้รับอวยยศให้เป็น “หลวงจีนคณานุรักษ์”ในล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 และ ได้เลื่อนเป็น “พระจีนคณานุรักษ์” ในรัชกาลที่ 6 และ “แซ่ตัน” คนนี้เองที่อาจถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของตระกูลสำคัญๆในจังหวัดปัตตานี แล้วขยายไปสู่ยะลา นราธิวาส และหาดใหญ่ สงขลา สำคัญๆได้แก่ตระกูล “ตันธนวัฒน์”/ตระกูล “โกวิทยา” /ตระกูล “วัฒนายากร”/ และ ตระกูล “สุวรรณมงคล” เป็นต้น นี่แหละคือต้นตระกูลของ รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร เทคโนแครตคนสำคัญของหลายรัฐบาล แม้ดอกเตอร์ท่านนี้จะเกิดที่เบตงและดูเหมือนจะได้สายเลือดนักบู๊จาก “ตันปุ่ย” คนต้นสกุลมาไม่มากเท่าไหร่ก็ตาม ที่น่าสนใจคือ ลูกสาวคนหนึ่งของขุนพิทักษ์รายา(ตันบั่นซิ่ว-ลูกชายคนหนึ่งของตันจูล่าย) ชื่อคุณวลัย (ตันซุ่ยเอี้ยน) มีสามีเป็นผู้ว่าราชการเมืองปัตตานีขณะนั้น คือพระยาอุดรธานี(จิตร จิตตะยโสธร) มีลูกสาวกันคนหนึ่งชื่อ “คุณศรีสุมาลย์” และคุณศรีสุมาลย์ได้แต่งงานกับคุณเจริญ สุวรรณมงคล ภายหลังประกอบธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างสูง มีบุตรธิดาด้วยกันทั้งสิ้น 5 คน ล้วนมีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จทั้งสิ้นในยุคปัจจุบัน บุตรธิดาทั้ง 5 คนได้แก่ : 1.คุณสุเชฏฐ์ สุวรรณมงคล เจ้าของโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่(อดีต ผู้บริหาร บ.อีซูซุ ออโต เซ็นเตอร์ กทม.) เรียนจบจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ 2.คุณทิพย์วดี สุวรรณมงคล เรียนจบจากม.เมเซย์ ประเทศญี่ปุ่น และสาขาการศึกษาเด็กประถมวัย จากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ 3.คุณอนุศาสน์ สุวรรณมงคล สมาชิกวุฒิสภา/กรรมการผู้จัดการโรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี เรียนจบ ป.ตรีทางเศรษฐศาสตร์จากม.ซิดนีย์ ออสเคตรเลีย/ป.โทด้านเศรษฐศาสตร์จาก London school of Economic(ที่เดียวกับ “น้องช่อ”) และในสาขาเดียวกัน จากมหาวิทยาลัยเคมบริดส์ ประเทศอังกฤษ 4.คุณอนุพาสน์ สุวรรณมงคล กรรมการผู้จัดการ บ.อีซูซุหาดใหญ่ จำกัด(หลายสาขาในภาคใต้) เรียนจบทางรัฐศาสตร์ จาก ม.บอสตัน สหรัฐอเมริกา (คือผู้ฟื้นฟูบูรณะ “บ้านขุนพิทักษ์รายา”(ผู้เป็นคุณทวด)ให้เป็นแลนด์มาร์กสำคัญอีกจุดหนึ่งของเมืองปัตตานีในปัจจุบัน) 5.คุณรื่นวดี สุวรรณมงคล ท่านนี้มีตำแหน่งสำคัญๆ(ระดับอธิบดี)มากมายในวงราชการไทย เรียนจบ ป.ตรี จากคณะนิติศาสตร์(เกียรตินิยมอันดับ 1) จุฬาฯ/เนติบัณฑิตไทย/ป.โท ด้านกฎหมายจาก ม.ฮาร์วาร์ด และจบป.โท สาขาบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยเบิร์กเลย์ ด้วย! พิจารณาจากระดับสูงสุดของสังคมไทยคือระดับราชตระกูล จนถึงแถบพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้(ที่บางใครบอกว่ามีปัญหา) จะพบว่า ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รากเหง้าของ “คนแซ่ตัน” ได้แผ่ฐานรากและสร้างคุณูปการใว้ในสังคมไทยอย่างมากมาย ลึกซึ้งและกว้างขวางมากทีเดียว ต่อไปก็คงจะว่าด้วยเรื่อง “มอญ” ที่เข้ามาผสานร่วมกับ “แซ่ตัน” ในสายราชสกุลกันบ้างละนะ!!!!