ดร.วิชัย พยัคฆโส [email protected] ในท่ามกลางปัญหาใหญ่-น้อย เข้ามารุมเร้ารัฐบาลประยุทธ์ 2/2 มากขึ้น นอกเหนือจากปัญหาเศรษฐกิจหลังโควิด -19 แล้ว ยังมีปัญหาการเมืองทั้งในสภาฯ และนอกสภา โดยเฉพาะปัญหาการชุมนุมของบรรดานิสิต-นักศึกษาในประเด็นการเมือง แต่นายกฯประยุทธ์ ไม่หวั่นไหว ตั้งหน้าตั้งตาบริหารประเทศด้วยทีมเศรษฐกิจและทีมรัฐมนตรีใหม่ทั้ง 7 รายต่อไป เพราะความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีของประเทศ โดยมอบหมายหน่วยงานรวมไทยสร้างชาติแก่คณะรัฐมนตรี 5 เรื่องในการบริหารบ้านเมืองต่อไปภายหน้า 1.เยียวยาความเจ็บปวดประชาชนโดยเฉพาะกลุ่ม SMEs และประชาชนที่ตกงาน 2.แก้ปัญหาต่างๆในแนวทางที่ช่วยอย่างยั่งยืน ปัญหาเศรษฐกิจโลกจะคงอยู่นาน เป็นไปไม่ได้ที่จะให้เงินเยียวยาไปตลอด ต้องเริ่มโครงการอย่างจริงจัง สร้างความเจริญทางเศรษฐกิจให้ยั่งยืน 3.สร้างแรงจูงใจให้ธุรกิจจ้างงานต่อไป ให้ธุรกิจผลิตองค์กรตัวเองให้มีประสิทธิภาพและสามารถแข่งขันได้ดีขึ้น 4.มีแผนจ้างงานคนรุ่นใหม่ นักศึกษาจบใหม่จำนวนมากกำลังเข้าสู่ตลาดแรงงาน 5.การทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส รับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย นั่นคือวัตถุประสงค์ของผู้บริหารสูงสุดขององค์กร เปรียบเสมือนเป็น OKR ของรัฐบาลที่จะให้ทุกกระทรวงร่างวัตถุประสงค์นั้นมาจัดทำวัตถุประสงค์ขององค์กรให้เกิดนวัตกรรมในทางปฏิบัติที่สอดคล้องกันกับวัตถุประสงค์ ในการนี้นายกรัฐมนตรีได้จัดตั้งคณะทำงาน ศบศ. ทางเศรษฐกิจรวม 22 คน โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ ควบคู่กันไปยังได้จัดตั้งกรรมการขับเคลื่อนการบริหารเศรษฐกิจ เพื่อนำวัตถุประสงค์แต่ละข้อไปวิเคราะห์และจัดทำแผนปฏิบัติการเพิ่ม โดยมีอนุกรรมการอีก 3 ชุด ได้แก่ อนุกรรมการวิเคราะห์สถานการณ์ระยะสั้น วิเคราะห์สถานการณ์ระยะกลาง-ยาว รวมถึงวิเคราะห์เศรษฐกิจรายสาขา เพื่อเตรียมข้อมูลทั้งหลายให้ส่วนราชการนำไปปฏิบัติตามแผน ซึ่งมั่นใจได้พอควรว่าจะสามารถนำวัตถุประสงค์ของนายกรัฐมนตรีนำไปสู่การปฏิบัติในหลายๆประเด็นได้ดี เช่น กระทรวงพลังงานต่ออายุอุดหนุน LPG ภาคครัวเรือน ต่ออายุชดเชย NGV รถโดยสารสาธารณะ ปรับเกณฑ์โรงไฟฟ้าชุมชน เปิดประมูลปิโตรเลียมรอบที่ 23 กระทรวงเกษตรฯ ประกันราคายางพาราระยะ 2 ไม่ต่ำกว่า 60 บาท/กก. อุดหนุนเกษตรกรผู้ปลูกลำไย 2,000 บาท/ไร่ ไม่เกิน 25 ไร่ กระทรวงพาณิชย์ ประกันราคาข้าว 10,000-15,000 บาท/ตัน ช่วยเหลือลูกหนี้ SMEs ขยายระยะเวลาชำระหนี้ เน้นช่วยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่รับผลกระทบหนักจากโควิด-19 นอกจากนี้ยังมีกรรมการรวมไทยสร้างชาติ มีรัฐมนตรีของรัฐบาล 24 คน เป็นประธาน เพื่อรวบรวมปัญหาจากทุกจังหวัดมาปรับแก้ไขในยุคเศรษฐกิจลบ 12.2% ให้ฟื้นได้อย่างไร คงต้องรอดูว่า ครม.ชุดใหม่จะเพิ่มเติมอะไรลงไปอีกให้มีผลในทางปฏิบัติ เพราะดูแล้วยังมีเงินพอจะช่วยดำเนินนโยบายอีก 7-8 แสนล้านบาทในปี 2564 ประชาชนรอดูรัฐมนตรีเศรษฐกิจว่าจะสามารถปรับเปลี่ยนนโยบายไปอย่างไร เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงและได้รับการอุดหนุน โดยเฉพาะการส่งออกการว่างงาน และการท่องเที่ยวที่ยังรอมาตรการทางราชการให้เกิดผลบ้าง เช่น ขยายวงเงินเป็น 10 วัน/คน ค่าเครื่องบินเพิ่มอีกคนละ 1,000 บาท เป็นต้น เชื่อว่าถ้าการเมืองยังนิ่งไม่สั่นคลอน คงพาประเทศชาติไปได้ตลอดรอดฝั่ง