เสือตัวที่ 6 การที่สมาชิกแนวร่วมของขบวนแบ่งแยกผู้คนปลายด้ามขวานให้ออกห่างจากคนส่วนใหญ่ของแผ่นดินนี้นี้ ไม่เห็นความจริงที่ชัดเจนถึงภาพความเป็นจริงในอนาคตที่ถูกวาดฝันจากแกนนำหรือนักจัดตั้งแนวร่วมเมื่อการต่อสู้ของขบวนการไปถึงจุดสุดท้ายที่ต้องการ ในทางตรงข้าม สมาชิกแนวร่วมขบวนการร้ายแห่งนี้ กลับเห็นเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าฝ่ายขบวนการไม่มีความพร้อมแม้แต่น้อยในการแยกปกครองกันเองอย่างที่วาดฝัน การที่กลุ่มคนในขบวนการไม่สามารถแสดงให้เห็นเป็นรูปธรรมได้เลยว่า แกนนำขบวนการทั้งหลาย จะนำพาสิ่งที่ดีกว่าให้เกิดขึ้นกับพี่น้องในพื้นที่โดยเฉพาะคนอันเป็นที่รักในครอบครัวของตน รวมทั้งการไม่เห็นทางที่จะได้รับชัยชนะต่อรัฐหากต้องต่อสู้ด้วยอาวุธอย่างที่ผ่านมาที่นับวันจะอ่อนล้าและเบื่อหน่ายลงทุกวัน ยิ่งส่งผลให้เกิดความคิดว่า การอยู่กับรัฐเฉกเช่นในปัจจุบัน ก็มีความสะดวกสบายตามวิถีที่คนในท้องถิ่นต้องการภายใต้การสนับสนุนจากรัฐเป็นอย่างดีอย่างเป็นรูปธรรมที่จับต้องได้ในทุกเมื่อเชื่อวันแล้ว เหล่านี้เอง จึงเป็นแรงจูงใจสำคัญให้คนในขบวนการส่วนหนึ่งที่ตกเป็นแนวร่วมขบวนการ โดยเฉพาะสมาชิกประเภทที่ยังไม่ถลำลึกมากนัก มีความคิดใหม่กลับใจ หนีออกจากขบวนการสร้างความเห็นแปลกแยกให้ผู้คนในดินแดนนี้ เพื่อมาใช้ชีวิตกับครอบครัวได้อย่างปกติสุขตามต้องการ ซึ่งนอกจากปัจจัยแรงจูงใจหนีออกจากฝ่ายตรงข้ามรัฐดังกล่าวข้างต้น ยังมีงานวิจัยของนักวิชาการฝ่ายทหารกลุ่มหนึ่งพบว่า แรงกระตุ้นให้สมาชิกแนวร่วมขบวนการร้ายแห่งนี้ เร่งตัดสินใจหนีออกจากขบวนการ และกลับใจออกห่างจากแนวทางที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐได้เร็วขึ้น มีดังนี้ 1) การกดดันทางทหารควบคู่กับการกดดันทางการเมือง และการสร้างความแตกแยกจากภายใน จนมีแนวร่วมขบวนการออกมารายงานตัวเป็นกลุ่มก้อน ประกอบด้วย การใช้ศักยภาพทางทหารที่เหนือกว่าเข้ากดดัน โดยกระทำทั้งทางลับและเปิดเผย เพื่อบีบบังคับให้สมาชิกแนวร่วม มีทางเลือกเดียว นั่นคือการยอมหนีออกจากขบวนการ ทั้งการเปิดยุทธการด้วยกำลังขนาดใหญ่ในพื้นที่ป่าเขาและในหมู่บ้าน ควบคู่กับการกดดันด้วยวาจาที่มุ่งชี้ให้เห็นผลเสียที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตหากไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือยุติบทบาท โดยดำเนินการควบคู่กับใช้งานการเมือง เพื่อมุ่งสร้างความเข้าใจกับประชาชนที่ล่อแหลมในการตกเป็นแนวร่วมขบวนการแห่งนี้ รวมทั้งการเข้าไปช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนในมิติต่างๆ ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 2) การใช้อดีตแกนนำที่กลับใจมาอยู่ฝ่ายรัฐ เข้าไปพูดคุยกับประชาชนแนวร่วมในหมู่บ้าน เพื่อให้ข้อมูลอีกด้านหนึ่งและสร้างความมั่นใจในการกลับใจออกห่างจากขบวนการแห่งนี้ ร่วมกับการชี้เป้าแกนนำและแนวร่วมคนสำคัญที่เหลือ การช่วยเหลือในการถอนซูเปาะ เพื่อเปิดโอกาสให้กลับใจถอนตัวออกจากขบวนการ สู่การแลกเปลี่ยนความคิดความเชื่อ แล้วสร้างความเข้าใจกับแกนนำ ตลอดจนคนในครอบครัว เครือญาติ และบุคคลใกล้ชิดในการให้การเข้ามาช่วยเหลือแนะนำในด้านต่างๆ สร้างความมั่นใจในการตัดสินใจออกห่างจากขบวนการ อันเป็นหนทางที่จะกระตุ้นให้แกนนำ เร่งกลับใจ หนีออกจากแนวทางที่เป็นปรปักษ์กับรัฐได้เร็วขึ้น การกลับใจถอนตัวของสมาชิกแนวร่วม โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาแกนนำออกจากขบวนการร่ายแห่งนี้ แม้จะกระทำได้ไม่ง่าย หากแต่ยังสามารถทำให้เป็นจริงได้ โดยใช้คนที่สมาชิกในขวนการไว้วางใจ หรือคนที่เคยอยู่ในขบวนการแล้วออกมาด้วยความสมัครใจ เป็นผู้เข้าไปพบชี้แจงและชี้ตัวให้ออกมาแสดงตน ซึ่งต้องมุ่งให้เกิดความมั่นใจว่า เมื่อออกมาจากขบวนการนี้แล้ว จะปลอดภัย โดยจะได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่รัฐเป็นอย่างดี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการกลับใจมาเดินตามแนวทางใหม่ที่ไม่เป็นปรปักษ์กับรัฐ โดยรัฐจะต้องกระทำด้วยความจริงใจ จนเมื่อเกิดความมั่นใจแล้ว คนเหล่านี้จะชักชวนกันคนอื่นๆ ให้ออกมาจากขบวนการมากขึ้น 3) การเร่งสร้างความมั่นใจและรู้สึกใหม่ให้ผู้กลับใจ โดยมุ่งละเว้นจากการตอกย้ำถึงอดีตที่เจ็บปวด ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการปฏิบัติก็ตาม ต้องมุ่งเน้นว่ารัฐและคนในพื้นที่แห่งนี้จะร่วมกับเดินไปสู่ความสันติสุขและหาแนวทางการพัฒนานำความเจริญเข้าสู่หมู่บ้านหรือชุมชนร่วมกัน ตามวิถีทางที่คนในพื้นที่ปรารถนาได้ ควบคู่กับการระวังรักษาความปลอดภัยให้ผู้ร่วมมือ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง โดยจะต้องดำรงช่องทางการติดต่อการสื่อสารเอาไว้ มีการเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างในการพัฒนาสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน 4) การส่งเสริมการพัฒนาเพื่อความมั่นคงในหมู่บ้าน โดยการนำโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่องบนพื้นฐานความจริงใจต่อกัน เช่น การซ่อมแซมที่อยู่อาศัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ การพัฒนาสาธารณะสถาน การบูรณะสิ่งปลูกสร้างทางศาสนาและสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ การยกระดับการศึกษา การพัฒนาอาชีพเพื่อการดำรงชีวิตที่ดีขึ้น เป็นต้น ทั้งนี้ การพัฒนาดังกล่าว จะต้องสร้างการมีส่วนร่วมกับมวลชนในท้องถิ่นในการร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ และร่วมดำเนินการอย่างจริงจัง จึงจะเป็นผลสำเร็จและมีความยั่งยืนอย่างแท้จริง การสร้างความคิดใหม่กลับใจ หนีออกจากขบวนการสร้างความเห็นแปลกแยกให้ผู้คนในดินแดนนี้ จึงเป็นการกระทำอย่างเป็นกระบวนการ เพราะลำพังแต่แรงจูงใจที่ให้สมาชิกแนวร่วมขบวนการร้ายแห่งนี้ ตัดสินใจหลีกหนีออกจากแนวทางอันเป็นปรปักษ์กับรัฐนั้นอย่างที่ผ่านมานานวันนั้น ยังไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจถอนตัวในห้วงเวลาที่รัฐต้องการ เพราะกาลเวลาที่ผ่านไป มีจะทำลายโอกาสที่ดีๆ ในชีวิตของคนในพื้นที่ หากแต่ต้องกระทำควบคู่กับการกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจหลีกหนีปลีกตัวออกจากขบวนการสร้างความแปลกแยกเหล่านี้ให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด โดยการกระตุ้นการกลับใจ ถอนตัวตามกระบวนการดังกล่าวข้างต้น เพื่อเร่งให้ขบวนการร้ายแห่งนี้มีทางเลือกน้อยลง คงหลงเหลือแต่การต่อสู้ทางความคิดตามวิถีแห่งสันติวิธีในที่สุด