ทีมข่าวคิดลึก วันที่ 12 ก.ย.นี้ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะนำคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีคิวแถลงผลงานรัฐบาล ในวาระครบรอบปีที่2 หลังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ และครม.ได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้ทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินในฐานะ "ครม.ชุดที่ 61" เมื่อวันที่ 31 ส.ค.2557 หลังการยึดอำนาจในเหตุการณ์ "22 พฤษภาคม 2557" จากรัฐบาล "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" แน่นอนว่า การแถลงผลงานรัฐบาลในรอบนี้เมื่อครบปีที่ 2 ของการบริหารประเทศ ของรัฐบาลที่มาจาก "คณะรักษาความสงบแห่งชาติ" หรือ คสช.นั้นไม่ใช่เพื่อ "ส่งไม้ต่อ" ไปยัง "รัฐบาลใหม่" แต่อย่างใด หากแต่เป็นการแถลงผลงานเมื่อผ่านพ้นไปแล้ว 2 ปีก่อนที่จะปักหมุดในฐานะรัฐบาลที่มีอำนาจรัฏฐาธิปัตย์เหนือกว่ารัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อเข้าสู่การบริหารประเทศปีที่ 3และว่ากันว่าจะเป็นปีที่เต็มไปด้วยความเข้มข้น ท้าทายจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอก ที่เฝ้าจับตาคสช.และรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์มาโดยตลอด ทั้งนี้เมื่อการเมืองในมือคสช.เกิดความ "สงบ" ส่วนจะ "สันติ" กันจริงหรือไม่ ยังเป็นเรื่องที่น่าติดตาม และน่าสนใจยิ่ง เพราะอย่างน้อยที่สุดไม่มีกลุ่มการเมืองทั้งจากพรรคการเมืองหรือภาคประชาชนพากันออกมาเดินขบวนเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลและ คสช. เหมือนที่เคยผ่านมาในอดีต จนทำให้เกิดภาพ "รัฐล้มเหลว" ที่อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ต้องเผชิญมาแล้ว ! แต่ถึงกระนั้นใช่ว่าปัญหาเก่าจะไม่กลับมากลายเป็น "ปัญหาใหม่" แถมยังสุ่มเสี่ยงว่าจะกลายเป็น "เรื่องใหญ่" หากรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ และ "ทีมเศรษฐกิจ" ที่นำโดย "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" รองนายกรัฐมนตรี เร่งดำเนินการกู้สถานการณ์ไม่ทันท่วงที ข้อมูลตัวเลขล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ส.ค. ตามที่ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส 2 ของ ปี 2559 ระบุถึงสภาพการจ้างงาน ลดลงร้อยละ 0.9 โดยภาคเกษตรลดลงร้อยละ 6.2 เนื่องจากแรงงานส่วนหนึ่งอยู่ระหว่างรอฤดูการเพาะปลูกที่เหมาะสม ส่วนภาคนอกเกษตรยังคงมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 1.4 เป็นการเพิ่มขึ้นในสาขาการก่อสร้างโรงแรมและภัตตาคาร การขนส่งและจัดเก็บสินค้าร้อยละ 5.4 4.0 และ 0.9 ตามลำดับแต่สาขาการผลิตมีการจ้างงานที่ลดลงร้อยละ 1.7 การว่างงานในไตรมาสสองเท่ากับร้อยละ 1.08 ส่วนการทำงานต่ำระดับเพิ่มขึ้นร้อยละ 26.9 มีจำนวนผู้ว่างงานแฝงเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.9 ค่าจ้างแรงงานโดยรวมยังคงเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 ในส่วนของ การว่างงานเพิ่มขึ้น ในไตรมาสสองมีผู้ว่างงาน 411,124 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.3 และคิดเป็นอัตราการว่างงานเท่ากับร้อยละ 1.08 เทียบกับร้อยละ 0.88 ในไตรมาสเดียวกันของปี 2558 ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่าจุดแข็งของรัฐบาลนี้ยังปักหลักอยู่ที่ความโดดเด่นเรื่องของความมั่นคงความสงบเรียบร้อย โดยในส่วนของคดีอาญาโดยรวมในไตรมาสสองของปี 2559 ลดลงร้อยละ 14.6 จากไตรมาสเดียวกันของปี 2558 คดียาเสพติด คดีชีวิตร่างกายและเพศและคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ รับแจ้งลดลงร้อยละ 11.3 18.9 และ 29.4 ตามลำดับ ในส่วนของคดีข่มขืนและคดีการพนันแม้ลดลงร้อยละ 19.4 และ 28.1 อย่างไรก็ดีการเดินหน้าบริหารประเทศของรัฐบาลปีที่ 3 จากนี้นั้นแน่นอนว่าทางหนึ่งต้องยึดกุมความเข้มแข็งในเรื่องของการดูแลรักษาความสงบภายในประเทศต่อไปขณะเดียวกันยังต้องไม่ลืมว่าการบริหารจัดการ "ปัญหาปากท้อง"ยังถือเป็นโจทย์ข้อยากที่ต้องหาทางเร่งแก้ไขโดยด่วน โดยเฉพาะในห้วงเวลาที่รัฐบาลยังอยู่ในชัย ภูมิที่ถือว่าได้เปรียบแทบทุกประตู เช่นนี้ !