สถาพร ศรีสัจจัง “ครั้งนี้เราไม่ผิด คนที่ผิดคือรัฐ” นี่คือความรู้สึกที่หลุดออกมาอย่างซื่อใสของเจ้าของธุรกิจรายหนึ่ง ที่ “ประกาศปิด” กิจการของตัวเอง ผ่านทีวีบางช่อง ด้วยเหตุผลว่า “คราวที่แล้วยังพอถูไถ ยังเห็นความหวัง แต่ครั้งนี้หมดจริงๆ ไม่เห็นอนาคตเลย” ความคับแค้นใจต่อ “รัฐ” (หมายถึงรัฐไทยปัจจุบันที่มีผู้ “สมัครใจ” ชื่อ “บิ้กตู่” อาสาเข้ามาเป็นผู้บริหารสูงสุดของประเทศ หลังจากที่เข้ามาทำช่วงหนึ่งแล้วก่อนหน้านั้นด้วยข้ออ้าง “เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติร้ายแรงของประเทศ” จึงมีความจำเป็นต้องยึดอำนาจการปกครองด้วยกำลังทหาร!)แบบนี้ค่อยๆปรากฏขึ้นเรื่อยๆ จากที่โน่นถึงที่นั่นและที่นี่ กระทั่งค่อยๆก่อ “ความรู้สึกร่วม” ขึ้นอย่างน่ากลัวในขอบเขตระดับประเทศ! อะไรคือ “ความผิดของรัฐ” ในเหตุการณ์น่าระทึกแบบอกสั่นขวัญหายอยู่ในสังคมไทยยุค “โควิดรอบ 2” ครั้งนี้? ข้อสรุปของชาวบ้านทั่วไป(ไม่ใช่ฝ่ายค้านหรือฝ่ายศัตรูของรัฐบาลนายกฯลุงตู่)ก็คือ ความหลงระเริงใจของบรรดาผู้ใต้ปกครองของนายกฯลุงตู่ที่ถูกเรียกมาโดยตลอดว่าคือ “รัฐบาลไทยชุดถาวร” ที่เรียกกันว่า “ข้าราชการ” นั่นไง! ฟังว่าที่พวกเขาเหิมเกริมในการประกอบความชั่วทั้งหลายทั้งปวงนั้นล้วนเกิดจากความอ่อนปวกเปียกของรัฐบาลนายกฯลุงตู่ที่ไม่สามารถ “ทะลายระบบ” อุปถัมภ์และระบบคอร์รัปชัน ซึ่งมีมาแต่ดั้งแต่เดิมได้แม้เพียงสักกระผีกริ้น! ครั้งนี้แสดงตัวให้ชาวบ้านเห็นอย่างล่อนจ้อน ทั้งในสิ่งที่เรียกว่า “ระบบมหาดไทย” และ ระบบวงจรอุบาทว์ที่เรียก “ตำรวจ” แม้กระทั่งระบบทหารเองก็เถอะ! อันเป็นภาพสะท้อนและแสดงให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมว่าในห้วงเวลาการยึดอำนาจรัฐไปไว้ในมือด้วยเหตุผลที่ว่า “เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาวิกฤติของชาติ” ในห้วงเวลาถึง 4-5 ปีนั้น นายกลุงตู่ไม่สามารถ “ปฏิรูป” หรือเปลี่ยนแปลงความสามานย์ทั้งหลายที่ดำรงอยู่ในระบบเหล่านั้นได้เลยแม้สักนิดเดียว! หลายอย่างหลายประการดูเหมือนจะมูมมามต่ำช้าหนาหนักขึ้นด้วย และทุกอย่างทุกประการนั้นดำเนินไปในนามของรัฐบาลนายกฯลุงตู่ ทั้งเมื่อครั้งยึดอำนาจมาและเมื่อครั้งเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งทั้งสิ้น! คงไม่ต้องอธิบายให้มากความและยาวกว่านี้ไปอีก ที่เขียนก็เพียงเพราะอยากบอกนายกฯลุงตู่แบบจริงใจว่า “มันไม่ไหวแล้วจริงๆ” และ ถ้าท่านนายกฯยังทำงานอยู่แบบนี้ เชื่อเถอะ “กองเชียร์” และ “แรงหนุน” ที่ส่งใจให้ท่านมาตลอดจะหมดไปอย่างรวดเร็ว เพราะชาวบ้านเขาก็จะเชื่อ(ตามคำโฆษณา)ว่าท่านเป็นพวกเดียวกับกลุมคนสามานย์และไร้ศีลธรรมที่เห็นแก่เงินและผลประโยชน์ส่วนตนเหล่านั้น! คงไม่มีใครสามารถแนะนำนายกฯลุงตู่ได้หรอกว่า ถ้า “รัฐ” ผิดจริงในกรณีนี้ ลุงตู่ควรจะทำอย่างไร? ควรต้องออกมากล่าวคำ “ขอโทษ” ชาวบ้านสักคำหรือเปล่า ที่ไม่สามารถจัดการกับระบบสามานย์และผู้ใต้บังคับบัญชาเลว ที่ยังคงดำรงอยู่อย่างเหนียวแน่นในยุคของท่าน และดูจะเลวทรามต่ำช้าหนักขึ้นด้วย หนักขึ้นแบบ “หยามหน้า” ขุนทหารเช่นท่านที่พูดแล้วพูดอีกถึงความซื่อสัตย์และธรรมาภิบาล! ไม่แน่ใจเสียแล้วละว่า เมื่อถึงวันนี้ นายกฯลุงตู่อยากจะมีชื่ออยู่ในประวัติศาสตร์แบบ “รัฐบุรุษ” หรือแบบชนชั้นปกครองทั่วไปธรรมดาๆ ที่(เขาว่า)ล้วนมาเพื่อแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์ให้แก่ตัวเองและพวกพ้อง! เรื่องนี้นายกฯลุงตู่คงต้องเลือกเอง ที่สำคัญก็คือคงต้องรีบเลือกก่อนที่ “ศรัทธา” มหาชนชาวไทยจะเกิดกระแส “พลิกคดีเอียงซ้าย” !!!!