เสือตัวที่ 6 สถานการณ์ของโลกในช่วงเวลานี้ ได้ส่งสัญญาณอันตรายให้มนุษย์โลกได้ตระหนักรู้ว่า ต่อแต่นี้ไป จะเกิดสิ่งแปลกใหม่ขึ้นในทั่วทุกทุมโลก ปรากฏการณ์อากาศแปรปรวน ที่ๆ ไม่เคยมีอากาศหนาวเย็น ก็เกิดอากาศหนาวเย็นลงอย่างผิดปกติลงจนเกิดหิมะตก ในขณะที่บางแห่ง เกิดอากาศหนาวเย็นลงอย่างมากจนเกิดหิมะตกอย่างถล่มทลายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และทั่วโลกเกิดภาวะฝุ่นจิ๋ว P.M2.5 ที่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจของมนุษย์ที่ปกคลุมไปขยายไปในวงกว้างทั่วโลกอย่างน่าสะพรึงกลัว ซ้ำเติมกับการแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสตัวร้ายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลกอย่าง Covid-19 ที่กำลังทำลายภาวะปกติที่มนุษย์เคยดำรงชีวิตกันมาอย่างสุขสบายให้จำต้องปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตประจำวันกันใหม่ในทุกมิติ ทุกด้าน ทุกกลุ่ม สาขาอาชีพอย่างที่เรียกกันว่า New Normal โลกวันนี้ กำลังให้บทเรียนแก่มนุษย์ว่า หากมนุษย์ยังหลงระเริงอยู่กับวิธีคิดแบบเดิมๆ อย่างสุขสบาย อย่างแบ่งแยกแข่งขัน อย่างที่เคยสร้างความบาดหมางระหว่างมนุษย์แต่ละกลุ่มด้วยกันอย่างที่เคยผ่านมา เมื่อนั้นมนุษย์กลุ่มนั้น ก็จะถูกสภาพแวดล้อมของโลกใหม่นี้ เข่นฆ่าเอาชีวิตก่อนที่มนุษย์จะประหัตประหารกันเองอย่างที่เคยผ่านมาในอดีต โลกวันนี้ที่มนุษย์โลก ไม่อาจแบ่งแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แปลกแยกออกจากกันเพื่ออยู่อย่างโดดเดี่ยวเฉพาะกลุ่ม เฉพาะชาติพันธุ์ของตนได้ ด้วยการสร้างวาทกรรมของเผ่าพันธุ์ ชาติพันธุ์ หรือประวัติศาสตร์ที่เคยเป็นฝ่ายตรงข้ามกันได้อีกต่อไป เพราะทุกกลุ่มคนในโลกต่อแต่นี้ไป ไม่อาจดำรงชีวิตอยู่ได้ตามลำพังเฉพาะกลุ่ม เพราะคนในโลกต่อแต่นี้ไปจำต้องพึ่งพาอาศัยระหว่างกัน พึ่งพาอาศัยระหว่างกลุ่มคนอื่นๆ ที่มีความแตกต่างในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อทางศาสนา ชาติพันธุ์ ภาษาวัฒนธรรม ตลอดทั้งความแตกต่างทางความเชื่ออื่นๆ โลกวันนี้ ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมอย่างเดียวกัน ต้องเผชิญกับภัยคุกคามตัวเดียวกันอย่างแยกไม่ออก ภัยคุกคมตัวนี้ มีเป้าหมายเดียวกันคือชีวิตของมนุษย์ในโลก และมันพร้อมจะทำลายชีวิต และวิถีชีวิตของมนุษย์ลงให้ย่อยยับลงในพริบตา และแม้ว่าไวรัสร้ายตัวนี้ จะถูกระงับยับยั้งจากศักยภาพของมนุษย์โลกที่สามารถคิดค้นยาวัคซีนเพื่อปกป้องชีวิตมนุษย์ หากแต่ยาปฏิชีวนะตัวนั้น ก็จะสามารถควบคุมความร้ายกาจของไวรัสร้ายตัวนี้ได้ในขณะหนึ่งเท่านั้น เพราะอัตราเร็วของการคิดค้นวัคซีนของมนุษย์ จะเทียบไม่ได้กับอัตราเร็วในการกลายพันธุ์ของไวรัสตัวนี้ เพื่อพัฒนาตัวมันเองให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในโลกใบนี้อยู่ต่อไป หลังจากที่หลายประเทศ เริ่มมีการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ Covid-19 อย่างสหรัฐอเมริกา และ สหราชอาณาจักร พบว่ายังคงมีผู้ป่วยเพิ่มสูงในแต่ละวัน ซึ่งยังคงต้องติดตามไปอีกสักระยะหนึ่ง ขณะเดียวกัน ยังมีประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่ไม่ต้องการฉีดวัคซีน ได้แก่ ฝรั่งเศส และ ญี่ปุ่น แม้รัฐบาลพยายามจะรณรงค์และสั่งจองวัคซีนไปแล้วก็ตาม และความจริงที่ควรรู้อีกประเด็นหนึ่ง ก็คือภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ Covid-19 คือ ประมาณร้อยละ 95 ของผู้ป่วยติดเชื้อ Covid-19 มีภูมิคุ้มกันเกิดขึ้น และอาจสูงพอที่จะยับยั้งเชื้อได้ตั้งแต่ 8 วันหลังการติดเชื้อ โดยขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค (รุนแรงน้อย ระดับภูมิคุ้มกันน้อย) ระดับภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้น จะขึ้นเร็วใน 3 สัปดาห์แรกหลังการติดเชื้อ แล้ว ค่อย ๆ ลดลง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเหล่านั้น เป็นเพียงข้อสันนิษฐานเบื้องต้น เพราะไวรัสตัวนี้ เป็นเรื่องใหม่ เป็นสิ่งมีชีวิตพันธุ์ใหม่ของโลกที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ดังที่มีการศึกษาของหน่วยงาน Public Health England (PHE) ระบุว่า ภูมิคุ้มกันจะคงอยู่ไม่น้อยกว่า 5 เดือน แต่ไม่น่าจะคงอยู่นาน จากการที่ภูมิคุ้มกันไม่ได้อยู่นาน การติดเชื้อซ้ำจึงเกิดขึ้นได้ จำนวนสัดส่วนประชากรที่มีภูมิคุ้มกันที่จะก่อให้เกิด Herd (Community) Immunity (ภูมิคุ้มกันหมู่) ในการแพรระบาดของโควิด 19 ยังไม่ทราบซัดเจน ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องเลือกวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงเกือบ 100% แต่อย่างน้อยต้องไม่น้อยกว่า 50% โดยเทียบเคียงกับวัคชีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่มนุษย์จำต้องฉีดประจำทุกปีๆ ละ 1 ครั้ง เพราะการกลายพันธุ์พัฒนาตัวมันเองของสิ่งมีชีวิตประเภทนี้ให้สามารถอยู่รอด เอาชนะยาปฏิชีวนะของมนุษย์ และสามารถขยายเผ่าพันธุ์ของมัน (แพร่ระบาด) ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปไม่สิ้นสุด ซึ่งโดยทั่วไปวัคชีนป้องกันไข้หวัดใหญ่มีประสิทธิภาพประมาณ 50% โดยผู้ที่ได้รับการฉีดวัคชีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ยังอาจติดเชื่อโรคไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ แต่อาการจะไม่รุนแรง และลดอัตราการเสียชีวิตลงได้ระดับหนึ่ง ซึ่งนั่นคือที่มาของความจำเป็นยิ่งของมนุษย์ทุกกลุ่มคน จะต้องพึ่งพาอาศัยกันและกันในการได้รับการสนับสนุนยาวัคซีนตัวนี้ในทุกๆ ปี เฉกเช่นเดียวกับวัคซีนป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่มนุษย์โลกจำต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี ตราบใดที่เชื้อไข้หวัดใหญ่ตัวนี้ มีการกลายพันธุ์พัฒนาตัวเองเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่อย่างไม่เคยลดละ และไวรัสตัวใหม่ล่าสุดที่ชื่อ Covid -19 ยิ่งเป็นสิ่งมีชีวิตพันธุ์ใหม่ที่มีความร้ายกาจกว่าไวรัสไข้หวัดใหญ่หลายเท่า ซึ่งการคิดค้นวัคซีนป้องกันไวรัสตัวนี้จึงนับว่า ไม่ใช่เรื่องง่าย เหล่านี้คือความจำเป็นที่มนุษย์ในโลกต่อแต่นี้ไปอีกนานแสนนาน ที่ต้องพึ่งพาอาศัยกันและกัน เพราะสิ่งมีชีวิตพันธุ์ใหม่จะเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปสักกี่ร้อยปี สภาพแวดล้อมของโลก ก็จะผันแปรไปเป็นเงาตามตัว สภาพแวดล้อมที่เป็นภัยคุกคามของมนุษย์ อันเป็นภัยคุกคามที่ไม่ได้เกิดโดยน้ำมือของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่เลวร้าย แปรปรวน ฝุ่นจิ๋วที่เป็นพิษต่อระบบทางเดินหายใจของมนุษย์ ภัยน้ำท่วม แผ่นดินถล่ม และเมื่อใดที่ไวรัสตัวปัจจุบันที่ชื่อ Covid-19 ที่จะกลายพันธุ์พัฒนาตัวเองให้ต่อสู้กับยาปฏิชีวนะของมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปไม่สิ้นสุด เมื่อนั้นมนุษย์ทุกกลุ่มคนก็ไม่อาจแบ่งแยกไปอยู่กันเองตามลำพังได้ เพราะต้องพึ่งพาวัคซีนป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่เหล่านั้นจากประเทศที่ใหญ่กว่าและพัฒนาไปมากกว่าอย่างต่อเนื่องทุกปีไม่มีวันสิ้นสุด