แสงไทย เค้าภูไทย อันดับคอร์รัปชันโลกปีนี้ ไทยลดลงไป 3 อันดับ หลังจากปีก่อนหน้าลดต่อเนื่องมาแล้ว 3 อันดับ จาก 99 มาเป็น 101 แล้ว 104 ปีที่แล้ว บอกอะไรบ้าง ? ดัชนีคอร์รัปชันโลก (Corruption Perceptions Index - CPI) เป็นการจัดอันดับการคอร์รัปชั่นของ 180 ประเทศทั่วโลก โดยการสำรวจและเก็บข้อมูลใน 13 ด้าน 13 แหล่งข้อมูล ด้วยผู้เชี่ยวชาญจาก 12 สถาบัน และผู้บริหารธุรกิจชั้นนำ โดยแต่ละคนให้คะแนนแก่ประเทศที่อยู่ในข่ายสำรวจ แล้วนำมาประมวลผล เกลี่ยคะแนน 1-100 คะแนน คะแนนอันดับหนึ่ง จะได้มากที่สุด การคอร์รัปชัน เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงมีการปกปิด ซับซ้อน ซ่อนเร้นข้อมูล การจะได้ข้อมูล ข้อเท็จจริง หลักฐานต่างๆจึงไม่ใช่ได้มาง่ายๆ ได้มาแล้วก็ต้องประมวลผล โดยมีการสร้างเครื่องมือประมวลผลที่เรียกว่า Global Corruption Barometer วัดค่าแล้วแปลงเป็นดัชนี สำหรับข้อมูลที่นำมาประมวลผลเป็นดัชนี 13 ด้านได้แก่ สินบน การยักยอกกองทุนสาธารณะ การใช้สำนักงานของสาธารณะสร้างประโยชน์ส่วนตัว ความสามารถของรัฐในการปราบปรามคอร์รัปชัน กฎระเบียบทางราชการที่ยุ่งยากซับซ้อนที่เอื้อต่อการเรียกรับสินบนหรือช่องทางคอร์รัปชันอื่นๆ การแต่งตั้งตำแหน่งหน้าที่ทางราชการที่เล่นเส้นเล่นสาย เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายไม่เที่ยงตรง เอียงข้าง กฎหมายที่เอาผิดต่อผู้กระทำความผิดทางด้านการเงินไม่เข้มแข็งเพียงพอ การให้ความคุ้มครองทางกฎหมายต่อผู้เปิดโปงการกระทำทุจริต เจ้าหน้าที่สอบสวน สื่อมวลชนผู้นำเสนอข่าวและข้อมูลทุจริตอ่อนด้อย การเอาจริงเอาจังต่อการปกป้องสาธารณประโยชน์ และการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของประชาคมด้านสาธารณประโยชน์ สำหรับกิจกรรมที่ไม่อยู่ในข่ายดัชนีคอร์รัปชันได้แก่ การหลีกเลี่ยงภาษี การคอร์รัปชันในองค์กรเอกชน การฟอกเงินของเอกชน ความผิดปกติในด้านเศรษฐกิจและตลาด อันดับที่จัดกันในปีนี้ เกิดจากการประเมินผลตลอดปีที่ผ่านมา อันดับเดียวกันกับไทยปีนี้มีถึง 7 ประเทศ จากอันดับ 104 ไปถึง 110 จะถือว่าอยู่อันดับ 104 หรือ110 ร่วมกันก็ได้ อันดับ CPI ของไทยนั้น เคลื่อนไหวในด้านดีขึ้นในปี 2016 เลื่อนขึ้นมาจากอันดับ 101 เป็น 96 ในปี 2017 จากนั้น ตกไปอยู่ 99 ปี 2018 แล้วเป็น 101 ปี 2019 อยู่อันดับ 104 ปี 2020 ชาติที่ได้คะแนนสูงสุดได้แก่เดนมาร์กกับนิวซีแลนด์ 88 คะแนนเท่ากัน ส่วนไทยได้ 36 เท่ากับเวียดนาม โคโซโว แอลเบเนีย แอลจีเรียและเอลซัลวาดอร์ สำหรับอาเซียน ไทยอยู่อันดับ 5 สิงคโปร์อันดับ 1 ตามด้วยบรูไน มาเลเซีย อินโดนีเซีย ส่วนที่ตามหลังไทยคือฟิลิปปินส์ ลาว เมียนมาและกัมพูชา ตัวฉุดคะแนนที่สำคัญที่สุดของไทยคือ ด้านขีดการแข่งขัน (IMD) ด้านนี้ มองว่า ปีนี้ จะเป็นตัวฉุดอีกปี ซึ่งอาจจะหนักกว่าปีที่แล้ว เหตุจาก ความพร้อมของไทยในการฟื้นฟูเศรษฐกิจค่อนข้างจำกัด เนื่องจากมีตัวถ่วงหนักคือการก่อหนี้ภาครัฐ ซึ่งไม่ค่อยโปร่งใสนัก จะตกลงไปอีก 3 อันดับก็คงไม่แปลกใจ เพราะดูแล้วยังหาตัวช่วยอื่นๆไม่มี