แสงไทย เค้าภูไทย กัญชาเริ่มมองเห็นทิศทางที่ดีเมื่อมีการพิจารณาให้โรงงานยาสูบเป็นผู้ปลูก เพราะสามารถควบคุมได้แบบยาสูบ การยาสูบฯ เคยเสนอปลูกกัญชามาก่อนแล้วเหตุจากมีความพร้อม ทุกด้าน โดยเฉพาะลูกไร่ปลูกใบยาและดำเนินกิจการโรงบ่มใบยาที่มีกว่า 2 หมื่นราย ซึ่งปัจจุบันรายได้ลดลง เพราะการใช้ใบยาสูบลดลง เนื่องจากการรณรงค์เลิกสูบ หรือลดจำนวนผู้สูบหน้าใหม่ได้ผล แต่ทางผู้มีอำนาจในด้านนี้ยังนิ่งเฉย เหตุเพราะยังมีการเมืองและผลประโยชน์ที่ทับซ้อนและซับซ้อนซ่อนเงื่อนกันอยู่ การยาสูบแห่งประเทศไทย (Tobacco Authority of Thailand -TOAT) ชื่อย่อ ยสท. เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง ทำหน้าที่ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายบุหรี่สำเร็จรูป ยกฐานะจากโรงงานยาสูบ กรมสรรพสามิตขึ้นเป็นนิติบุคคลตามพระราชบัญญัติการยาสูบแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2561 โดยฐานะนิติบุคคลแล้ว การยาสูบสามารถดำเนินการในด้านเกี่ยวข้องกับยาสูบได้ทุกประเภท เช่นรับจ้างผลิตยาสูบเพื่อส่งออกไปจำหน่ายนอกราชอาณาจักร ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์ เครื่องมือ หรือเครื่องใช้ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมหรือธุรกิจที่เกี่ยวกับใบยาสูบ การที่จะมารับดำเนินการปลูกและผลิตกัญชาเพื่อเป็นส่วนประกอบทางเภสัชกรรมและใช้ทางการแพทย์จึงเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้เพราะยาสูบเป็นผลิตภัณฑ์หรือสินค้าควบคุม เงื่อนไขของผู้สูบบุหรี่นั้น จำกัดทั้งอายุ จำกัดสถานที่สูบ จำกัดเวลาขาย ฯลฯ สามารถใช้เป็นมาตรการควบคุมการใช้กัญชาได้เข่นเดียวกัน มักมีการนำกัญชาไทยเสรีไปเปรียบเทียบกับสหรัฐฯเสมอมา ซึ่งข้อเท็จจริงนั้น เป็นคนละเรื่องกันเลย สหรัฐฯเปิดให้กัญชาถูกกฎหมาย( legal marijuana)มาตั้งแต่ปี 1996 จนถึงวันนี้ มีรัฐที่กัญชาถูกกฎหมาย 50 รัฐแล้ว แต่แม้จะถือว่ากัญชาถูกกฎหมาย ทว่าเป็นการถูกกฎหมายอย่างมีข้อจำกัด เช่นการปลูกเพื่อการค้าหรือลูกเพื่อใช้ทางการแพทย์ผู้ปลูกต้องได้รับอนุญาตและมีการควบคุมคุณสมบัติด้วย นอกจากนี้ ผู้ใช้ ผู้เสพผู้ซื้อยังถูกจำกัดคุณสมบัติด้วย เช่นอายุต้องเกิน 23 ปีเป็นต้น จาก 18 ปีเขยิบเป็น 21 แล้วล่าสุด 23 ปี แสดงถึงพิษภัยจากกัญชาปรากฏ ทำให้ต้องออกกฎหมายตามหลังมาควบคุม ขณะนี้บ้านเรามีการฉวยโอกาสระดมทุนเพื่อลงทุนปลูกกัญชารวมถึงกัญชงเพื่อการค้าเลียนแบบสหรัฐฯที่มีบริษัทปลูกและจำหน่ายกัญชานำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หุ้นพวกนี้เรียกกันว่า Marijuana Stocks ไม่รู้ว่าซิกแซกกันท่าไหน ขนาดบุหรี่หรือสุรา ยังถูกห้ามเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น แล้วกัญชาจะเข้าตลาดได้อย่างไร? และที่ฝันหวานว่าจะส่งขายนอกอเมริกานั้น อย่าไปฝันเลย ขนาดอเมริกาเองนั้น เมื่อเปิดกัญชาถูกกฎหมาย มีการขายกันเสรีในบางรัฐแต่กลับมีกัญชาใต้ดินหรือกัญชาผีเกลื่อน มากพอๆ กับกัญชาถูกกฎหมาย แม้แต่กระท่อม ล่าสุดอินโดนีเซียที่เคยส่งไปขายปีละ 50,000 ตัน ปีนี้ลดลงแล้ว และปีหน้าจะงดส่ง เพราะสู้ราคาพวกละตินอเมริกาที่อยู่ใกล้สหรัฐฯที่สุดไม่ไหว สำหรับรัฐที่อนุญาตให้ปลูกและใช้กัญชาถูกกฎหมาย ขณะนี้มี 50 รัฐ เป็นรัฐที่อนุญาตให้ใช้ได้ทั้งทางการแพทย์และด้านสันทนาการ(recreational marijuana) 14 รัฐ ส่วนที่ให้ปลูกทางการค้าได้ทางการแพทย์แต่เพียงอย่างเดียว 35 รัฐ ห้ามปลูกเด็ดขาดแต่ใช้ทางการแพทย์ได้ 2 รัฐ นอกจากนี้ ยังมีข้อกำหนดในการใช้สารจากกัญชาด้วย โดย 13 รัฐกำหนดปริมาณสาร THC อันเป็นสารที่ทำให้เมาและกระทบต่อจิตประสาทรุนแรง 13 รัฐ ที่เราว่าเสรีแบบสหรัฐฯและแคนาดานั้น ต้องไปศึกษาดู เพราะเปิดกัญชาถูกกฎหมายมาได้แค่ 4 ปีเท่านั้น พบฤทธิ์ที่ก่อเกิดอันตรายต่อร่างกายและสังคมมากมาย ขณะนี้ หลายรัฐเริ่มรณรงค์ตรวจเลือดผู้ขับขี่ยานพาหนะแล้ว เพราะพบว่าสารกัญชาตกค้างในเลือดคงอยู่ในระบบของร่างกายได้นานกว่าสุราที่สลายตัวใน 2-5 ชั่วโมง แต่กัญชาอยู่ในร่างกายมนุษย์ได้นานตั้งแต่ 5 วันถึง 28 วันยังตรวจพบ มีอุบัติเหตุทางรถยนต์เพิ่มขึ้นถึง 6% โดยส่วนที่เพิ่มขึ้นนั้นเกิดจากสารกัญชาตกค้างในกระแสเลือด ที่ไม่สามารถตรวจพบทางลมหายใจแบบแอลกอฮอล์ได้ สารตกค้างในกัญชานี้ส่วนใหญ่คือ THC ตัวการทำให้ประสาทเฉื่อยชา การตัดสินใจช้า อันเป็นตัวการเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ ถ้าเราควบคุมกันไม่รัดกุมเข้มงวด เราก็คงจะพบปัญหานี้ไม่ต่างไปจากที่สหรัฐฯและแคนาดาเผชิญกันอยู่