สถาพร ศรีสัจจัง ขอบคุณนายกฯ ลุงตู่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่นำคำสำคัญคำหนึ่งมานำเสนอ “ฟาด” บรรดาพวกไม่สนใจเรื่องจริยธรรมได้แบบจั๋งหนับไม่เบา แม้ทุกใครจะล้วนรู้ว่า ก็พวกที่อยู่ใกล้นายกฯลุงตู่ พวกลูกน้องคนสำคัญๆ ในบังคับของลุงตู่ กับพวกชนชั้น “ไฮโซ” เดียวกับชนชั้นประมาณลุงตู่ คือ เหล่าขุนนาง และ พ่อค้าชั้นสูงที่เกี่ยวข้องกับลุงตู่พวกนั้นแหละ ที่มักจะเกี่ยวข้องกับแหล่ง “อโคจร” ทั้งหลายโดยตรง! ถ้าจะพูดให้ตรงยิ่งขึ้น คือ ชี้เฉพาะลงไปให้ชัดว่า ลูกน้องสายตรงของนายกฯลุงตู่พวกไหนบ้าง ที่ชอบไป หรือมักเข้าไปเกี่ยวข้องกับสถานที่ “อโคจร” ที่ลุงตู่ว่า ก็คงต้องชี้เป้าบอกว่า ก็บรรดาพวกสีกากีที่นายกฯลุงตู่ นั่งเป็นประธานบัญชาการควบคุมการแสดงอยู่นั่นไง! เอาให้เป็นรูปธรรมขึ้นอีก (บอกเอาบุญ เผื่อลุงตู่ยังไม่รู้) เฉพาะช่วงการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่ห่าแรกจนถึงห่าที่ 3 ในปัจจุบัน อย่างน้อย สถานที่ “อโคจร” 3-4 แหล่งที่พวกลูกน้องสีกากีของนายกฯลุงตู่เข้าไปเกี่ยวข้อง (บางแหล่งก็เกิดรายการแสดงเรื่อง “เชือดคอไก่ให้ลิงดู” บ้างแล้ว) เริ่มมาตั้งแต่สนามมวยลุมพินี(อันนี้ลูกน้องลุงตู่ทั้งเข้าไปเกี่ยวทั้งสีเขียวและสีกากี)/ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาคร(อันนี้ว่ากันว่ามีรายได้จาก “แรงงานเถื่อน” กันมานานแบบ “มหาศาล” จนยากจะแจงนับ)/บ่อนระยอง (อันนี้ลุงตู่น่าจะรู้ดีว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง?) และสุดท้ายก็คือที่กำลัง “ฮอต” อย่างรุนแรงอยู่ในปัจจุบัน คือ “ซอยทองหล่อ” นั่นไง! (แหล่งผลประโยชน์แบบไม่มีที่สิ้นสุดของใครเอ่ย...) การที่นายกฯลุงตู่กล่าว “วาทกรรม” อย่างชัดเจนหาญกล้าว่า “ก็อย่าไปมันซิที่อโคจรนะ” บางทีอาจเป็นเพราะว่า ลุงยังเข้าใจคำว่า “อโคจร” (ซึ่งเป็นศัพท์สำคัญคำหนึ่งในพระพุทธศาสนา) แบบผิดๆอยู่บ้าง (ทั้งที่น่าจะบวชเรียนแล้ว) เพราะดูเหมือนตอนที่ท่าน “หลุดวาทกรรม” เกี่ยวกับคำ “อโคจร” ออกมานั้นท่านน่าจะหมายถึงเฉพาะ “สถานที่ที่ไม่ควรไปสัมผัสสัมพันธ์” เท่านั้น และเฉพาะครั้งนี้ ท่านน่าจะหมายถึงสถานบันเทิงประเภท “ผับ” หรือ “เลานจ์” แถวซอยทองหล่อ หรือย่านเอกมัยที่บรรดา “ไฮโซ” ทั้งที่เป็น “ผู้ทรงอำนาจและอิทธิพล” ในบ้านเมืองและพวกชนชั้นกลางมีเงินทองประเภท “ชายชอบสนุก” ทั้งหลายชอบไปใช้บริการกัน (ในราคาแพงลิ่วทั้งค่าบริการและ “ทิป” สำหรับน้องๆที่มาให้ “บริการ”) แท้จริงคำ “อโคจร” เป็นศัพท์เฉพาะในพระพุทธศาสนา ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสถึงไว้หลายแหล่งที่ในพระไตรปิฎก ลองคัดมาให้ดูสักนิดก็ได้ เพื่อยืนยันว่านายกฯลุงตู่เข้าใจเรื่องนี้ผิดไปอย่างไร... เอาความหมายจากงานวิจัยของ คุณนวลวรรณ พูลวสุพลฉัตร เรื่อง “อโคจรในพระวินัยปิฎก กับ สังคมไทยปัจจุบัน” ซึ่งที่ประมวลจากพระไตรปิฎก มาให้ดูหน่อยก็แล้วกัน ว่าคำ “อโคจร” หมายถึงอะไร? : “อโคจร หมายถึง ทั้งสถานที่อันภิกษุไม่ควรเข้าไป และตัวบุคคลที่ภิกษุไม่ควรเข้าไปคบหาสมาคมคลุกคลีด้วย เช่น ซ่องโสเภณี บ่อนการพนัน สถานบันเทิงยามราตรี ร้านขายสุรา แหล่งมั่วสุมยาเสพติด ตลอดจนโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ย่านตลาดสินค้า เป็นต้น แนวทางปฏิบัติคือ พระสงฆ์ ต้องยึดถือบทบัญญัติตามพระวินัย ยึดแนวอรรถาธิบายของพระอรรถกถาจารย์พระคันถรจนาจารย์ และปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาเป็นหลัก ข้อใดแม้ไม่ปรากฏก็ให้ถืออนุโลมตามวัตถุประสงค์แห่งการบัญญัติสิกขาบท 10 ประการว่าเป็นไปเพื่ออะไร ยึดหลักการตีความตามมหาปเทส 4 ยึดตามหลักเกณฑ์การตัดสินพระธรรมวินัย 8 ประการ ทั้งนี้ต้องนึกถึงเจตนาและสามัญสำนึกของตนเองว่าอะไรควรไม่ควร โดยคิดว่าอะไรเป็นปัณณัตติวัชชะ อะไรเป็นโลกวัชชะพึงงดเว้นโดยเด็ดขาด ทั้งนี้เพื่อรักษาศรัทธาปสาทะของประชาชนไว้ ...” ถามว่า ท่านนายกฯลุงตู่เข้าใจผิดอย่างไร? นิยามเรื่อง “อโคจร” ที่ยกมา ตอบชัดเจนว่านั่นเป็นเรื่องของภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ไม่เกี่ยวกับรัฐมนตรี อธิบดี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ตำรวจทหาร หรือลูกน้องคนไหนของนายกฯลุงตู่เลย คนที่อยู่ในตำแหน่งดังที่ยกมา คงคิดว่า พวกเขาไม่มีความจำเป็นจะต้องมีสำนึกหรือรู้ว่า "สถานที่อโคจร"ดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้นั้น จะทำให้ประเทศชาติและอาณาประชาราษฎร์ ฉิบหายล่มจมอย่างไร พวกเขาคงคิดได้แต่เพียงว่า ขอให้กูได้รับประโยชน์ ได้สนุกสนาน ได้เพลิดเพลินบันเทิงใจ ได้สำแดงอำนาจบารมีและความร่ำรวย ฯลฯ ก็พอ! เรื่องจริยธรรม เรื่องสำนึกเพื่อส่วนรวม เพื่อประชาชน หรือ เรื่องความฉิบหายของประเทศชาติบ้านเมือง และเรื่อง “รักษาศรัทธาปสาทะของประชาชนไว้” เป็นเพียงเรื่อง “วาทกรรม” ที่ใช้สำหรับการ “สร้างภาพ” ในบางครั้งบางคราวเท่านั้น! ในยุค “เงินเป็นใหญ่/กำไรสำคัญสุด” อย่างยุคทุนนิยมบริโภคเสรีในปัจจุบัน มันต้อง “เสพ” สุข และผลประโยชน์แบบ “น้ำขึ้นให้รีบตัก” ไว้ก่อนซิโว้ย!(กูไม่ใช่พระสงฆ์นี่หว่า! แม้พระสงฆ์เองก็เถอะน่า.....!) ดังนั้นในสายตาของกลุ่มคนผู้มีอำนาจบารมี(ส่วนใหญ่) ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด พวกเขาจึงอาจพิจารณาและให้ค่าคำ “อโคจร” แตกต่างกับนายกฯลุงตู่แบบตรงข้าม! (แม้ส่วนใหญ่จะประกาศว่าเป็น “ชาวพุทธ” แต่จะมีสักกี่รายที่รู้ เข้าใจ และปฏิบัติตัวตาม “วิถี” และ “จริยธรรม” ของชาวพุทธ?) ท่านนายกฯลุงตู่ผู้น่ารักเห็นแล้วยังครับว่า ท่านเข้าใจเรื่องสถานที่ “อโคจร” ผิดไปอย่างไร? ถ้าบรรดาลูกน้องของท่าน ทั้งที่เป็นรัฐมนตรี อธิบดี นายทหารนายตำรวจ และ บรรดาพ่อค้าผู้ใกล้ชิดนักการเมืองทั้งหลาย ฯลฯเข้าใจแบบท่าน เมืองไทยก็คงดีกว่านี้ไปนานแล้วละมั้ง!!!!!