ทองแถม นาถจำนง วันนี้จะเสนอเรื่องนกอีกสักวัน ก็เป็นเรื่องนกนางแอ่นต่อน่ะครับ และมีเรื่องการกำจัดนกแล้วไปทำให้ธรรมชาติเสียดุลยภาพไป เป็นเรื่องจากรายการ “เพื่อนนอน” ต่อจากเมื่อวานแหละครับ ท่าน “คึกฤทธิ์ ปราโมช” เล่าต่อไว้ว่า “สำหรับเรื่องนกนางแอ่นพวกนี้ ทางแถวเมืองหนาวในยุโรปรู้สึกว่าเขายินดีต้อนรับมันมาก เพราะเหตุว่าฤดูหนาวมันหายไป มันก็บินมาแถว ๆ บ้านเรานี่แหละครับ มันก็คงตายร่วงหล่นกันไปหมด แต่ในที่สุดมันก็กลับมาจนได้ พอถึงเริ่มต้นฤดูร้อน คือตอนท้ายฤดูหนาวก่อนที่ฤดูใบไม้ผลิจะมา คนยุโรปรู้สึกว่าจะตั้งตาคอยนกนางแอ่นกันทีเดียว เพราะเหตุว่ามันเป็นเครื่องหมาย แห่งความสิ้นสุดของฤดูหนาว ซึ่งตนเองก็ต้องรับความยากลำบากมาก พอเขาเห็นนอนางแอ่นบินมาประปราย ตัวสองตัว รู้สึกว่าเขาดีอกดีใจจริง ๆ พากันชี้ให้กันดูแล้วบอกว่าฤดูหนาวสิ้นสุดลงแล้ว ต่อไปนี้ก็จะมีแต่ฤดูใบไม้ผลิ มีแต่หน้าร้อน มีแต่ความอบอุ่น มีแต่ความสุขสบาย สำหรับยุโรปและเมืองหนาว ๆ นั้น นกนางแอ่นมันเป็นศุภนิมิต มันก็มีคุณอยู่บ้างเหมือนกัน มันเป็นเครื่องบอกข่าวของฤดูกาลให้แก่คนเป็นจำนวนมากมาย อย่างไรก็ตาม นกนางแอ่นมันก็เป็นธรรมชาติส่วนหนึ่ง ถ้ามันไม่มีภัยอันตรายใด ๆ แล้ว เราก็จะไม่ไปทำลายมัน เรื่องการทำลายธรรมชาติโดยไร้เหตุผลนี้ มันมีผลร้ายมามากแล้วเหมือนกัน อย่างในเมืองจีน รัฐบาลจีนแดงเห็นนกกระจอกชอบกินข้าวเปลือก ก็สั่งจีนทั้งประเทศให้ช่วยกันฆ่านกกระจอก ถึงกับมีรางวัลให้ ให้นกกระจอกหัวละเท่านั้นเท่านี้ ลูกเด็กเล็กแดงผู้หลักผู้ใหญ่ในเมืองจีน ก็พากันจับนกกระจอกกันเป็นการใหญ่ ผลที่เกิดขึ้นก็คือ นกกระจอกมีจำนวนน้อยลงไป ไม่ถึงกับสูญพันธุ์แต่มันหมดลงไปมากทีเดียว และก็เป็นที่รู้ประจักษ์กันว่า เมื่อนกกระจอกไม่มีแล้ว หนอนกินทั้งข้าวทั้งผลไม้พืชผักอื่น ๆ เสียหายยับเยินทั่วประเทศ เพราะเหตุว่านกกระจอกนอกจากมันจะกินข้าวเปลือกบ้างแล้ว มันกินหนอนกินแมลงต่าง ๆ ที่เป็นภัยต่อพืชเสียเป็นส่วนมาก ไปฆ่ามันเข้าแล้ว ผลเสียมากกว่าผลได้ อย่างในเมืองไทยเราก็เหมือนกัน สมัยหนึ่งปล่อยให้ยิงปืนเล่น ๆ กันได้ คนกรุงเทพมีปืนคะนองมือขึ้นรถไปเห็นนกยางตามไร่ตามนาก็ยิงกันดะไปหมด จนกระทั่งสมัยหนึ่งเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ขับรถจากกรุงเทพไปอยุธยา เกือบจะไม่แลเห็นนกยางในท้องทุ่ง และผลที่ปรากฏก็เป็นผลเสียอย่างมาก เพราะเหตุว่าชาวนาที่ทำนาที่บริเวณถนนผ่านนั้น ข้าวเสียทุกปี เพราะเหตุว่าปูมันกัด ปูกัดต้นข้าวขาด มีผลเสียหายมากมาย ต่อเมื่อห้ามยิงนกยางหรือนกอื่น ๆ แล้ว ข้าวถึงได้กลับมาได้ผลประโยชน์อะไรกันมากขึ้น ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเหตุว่านกยางมันนอกจากจะกินอบ่างอื่นแล้ว มันจับปูในนากิน ซึ่งปูนั้นเป็นภัยต่อต้นข้าว นกกระยางนั้นไม่ได้ทำภัยอันตรายอะไรต่อมนุษย์เลย ไปยิงมันเข้าก็เกิดผลร้าย เรื่องของการทำลายดุลยภาพทางธรรมชาติในเมืองไทยเรา รู้สึกว่ามีทำกันอยู่มาก โดยที่ไม่ค่อยจะสนใจ เป็นเรื่องที่น่าจะคิดหารายละเอียดและเหตุผลต่าง ๆ มาศึกษากันให้แน่นอน ก่อนที่จะทำอะไรลงไป อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ผมไม่มีความเห็นอะไรหรอกครับ ที่พูดมานี่ก็อยากจะขอชีวิตนกนางแอ่นสักทีเท่านั้น รู้สึกสงสารมัน มันบินมาไกล มาอาศัยนอนคืนเดียว จะฆ่ากันก็ออกจะใจไม้ไส้ระกำเต็มที ผมก็รักเทศบาลอยากจะให้ตายแล้วขึ้นสวรรค์ทุกคน เวลานี้ก็บาปอยู่แล้ว ฆ่าหมาทุกวัน ๆ ผมก็ไม่อยากจะรับรองสภาพของคนเทศบาลเมื่อตายไปแล้ว แต่ถ้าขืนเติมนกนางแอ่นอีกเป็นล้าน ๆ ตัวละก็ เห็นจะนรกแน่ละครับ ผมก็ไม่อยากไปพบกับเทศบาลที่นั่น” ( “เพื่อนนอน” วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2507) .......................... เรื่องดุลยภาพทางธรรมชาติเป็นเรื่องน่าห่วงใยมากนะครับ คนอยู่ในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพนี่ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นโรคแห้งแล้งทางความรู้สึกกันมาก คือไม่มีโอกาสสัมผัสธรรมชาติแท้จริงสักเท่าไหร่ น่าเห็นใจครับ คนส่วนใหญ่ต้องเช่าห้องรูหนูอยู่อาศัย ส่วนคนระดับกลาง ๆ มีทาวน์เฮาส์ มีตึกแถว พอจะมีที่ว่างนิด ๆ หน่อย ๆ ถ้ารู้จักจัดวางให้มีพื้นที่ธรรมชาติบ้างก็จะดีนะครับ แต่ผมเห็นบางทาวน์เฮาส์กลับเทปูนทับพื้นที่ที่เคยเป็นดินเสียหมด เด็ก ๆ สมัยนี้ ตีนจึงแทบไม่เคยสัมผัสดิน ดังนั้นจึงไม่ได้สัมผัสเชื้อจุลินทรีย์ เอไม่เคยสัมผัสเชื้อจุลินทรีย์ ร่างกายก้ไม่ได้สร้างภูมิคุ้มกัน กลับกลายเป็นผลร้ายต่อสุขภาพของเด็ก