สถาพร ศรีสัจจัง อาจกล่าวได้ว่า “ภูมิรัฐศาสตร์” (Geopolitics) เป็นเหตุปัจจัยเบื้องต้น ที่กำหนดให้มนุษย์ในสังคมหนึ่งๆ “เรียนรู้” (Learning) เพื่อ “ปรับตัว” เริ่มต้นจากการตอบโต้ตามสัญชาตญาณ(Instinct) เช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตในดวงดาวสีน้ำเงินที่เรียก “โลก” ดวงนี้ทั้งหลาย เนื่องจากมี “พัฒนาการ” ของสมอง ซึ่งเป็น “เครื่องมือทางการคิด” ที่แตกต่างไปจากสิ่งมีชีวิตสปีชีส์อื่น ๆ กล่าวคือ อวัยวะที่เรียกว่า “สมอง” ของ “คน” (Homosapien) มีพัฒนาการในการตอบโต้กับสิ่งสัมพันธ์ทั้งต่อสิ่งธรรมชาติรอบตัวทั้งหลาย ,ต่อ “คน” ด้วยกัน และต่อ “พลังลึกลับ” ที่ภายหลัง “คน” มักเรียกว่า “สิ่งเหนือธรรมชาติ” ในรอบหลายพันปี ทำให้เกิด “กระบวนการสร้างสรรค์” (Creative Prosess)หรือสิ่งที่ภายหลังเรียกกันว่า “วัฒนธรรม” (Culture)ขึ้น และสิ่งดังว่านี้ ก็มีพัฒนาการซึ่งมีรายละเอียดซับซ้อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนถึงโลกยุคปัจจุบัน ที่กล่าวกันว่า "ความหลากหลาย"(Diversity)ของปัจเจกชน กลุ่มชน ชุมชน ชาติพันธุ์ และท้ายสุดคือ"วัฒนธรรมของสังคมหนึ่งๆ" กำลังถูกทำลายลงด้วยอานุภาพอันมหัศจรรย์ของระบบความสัมพันธ์ทางการผลิตแบบทุนนิยม(Capitalism)ซึ่งบรรดาชนชั้นนำของชาติ “จักรพรรดินิยมตะวันตก"(Western Imperialist)คิดค้นขึ้นเป็น"เครื่องมือ"ในการพัฒนาและสถาปนา "ระบบโลก" โดยการพัฒนาผูกเข้ากับอำนาจทาง "เศรษฐกิจ-การเมือง” (Political Economy)จนสามารถก่อรูปแบบทางวัฒนธรรมที่ทรงพลัง สามารถ “กลืนกลาย” (Assimilate)วัฒนธรรมอื่นๆที่เกิดจากความหลากหลายทาง “ภูมิศาสตร์” ให้ยอมศิโรราบจำนน ต่อพลังมหาศาลของนโยบายที่เรียกว่า"การทำให้ทันสมัย"(Modernization) ภายใต้ยุทธศาสตร์ที่เรียกว่า “การกดดันให้ต้องเลือกฝ่าย” ที่จริงรูปธรรมของเรื่องดังกล่าวนี้ เริ่มมาแล้วตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 แต่มารุ่งเรืองเฟื่องฟูสูงสุดก็ในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่สร้างให้สหรัฐอเมริกากลายเป็นหัวโจกของ "จักรพรรดินิยมตะวันตก" อย่างสมบูรณ์แบบ หลังจาก "โลกาภิวัตน์" ได้ทำลายพรมแดนความเป็น "รัฐชาติ" (National State)ลงได้สำเร็จ เพื่อสร้างระบบ "ตลาดโลก" ให้กลุ่มทุนนิยมผูกขาดได้รับ "กำไรสูงสุด" สามารถสั่งสมทุนได้สูงสุด สามารถขูดรีด "มูลค่าส่วนเกิน" (Surplus Value)ได้สูงสุด ฯลฯรูปแบบ "การเรียนรู้" ของ "คน" ในยุคอดีตทั้งหลายทั้งปวงก็ถูกทำลายลง กล่าวโดยสรุปคือ แทนที่จะเป็นการ "เรียนรู้" เพื่อนำสิ่งใหม่ที่สอดคล้องกับเงื่อนไขทาง "อัตวิสัย" ของตน กลุ่มชน ชุมชน ชาติพันธุ์ หรือ "รัฐชาติ" ของตัวเอง มาปรับปรนเพื่อการยังชีวิตที่เหมาะควร ที่มั่นคงและยั่งยืน โดยสามารถอนุวัตรตามเงื่อนไขภววิสัยของโลกที่เคลื่อนเปลี่ยน การกลับเป็นเกิดกระบวนการให้ "เลียน"เพื่อพัฒนาไปเป็นตามสิ่งที่ชาติจักรพรรดินิยมตะวันตกที่มีสหรัฐอเมริกาเป็นต้นแบบต้องการ เริ่มตั้งแต่ระบบเศรษฐกิจกระแสหลัก คือระบบทุนนิยมเสรี ตามมาด้วยระบบโครงสร้างขั้นบน (ซึ่งต้องเกิดตามข้อกำหนดของรูปแบบความสัมพันธ์ทางการผลิต(Productive Relation)}ของสังคมทั้งหลาย(ที่เรียกว่า “วัฒนธรรม” นั่นแหละ) อาทิ ระบอบการปกครอง(รัฐศาสตร์)/ระบบการศึกษา (Educational System)/ระบบการสร้างรสนิยมการบริโภคปัจจัย 4 ( เช่น วัฒนธรรมด้านอาหารการกิน/วัฒนธรรมเรื่องที่อยู่อาศัย/วัฒนธรรมการแต่งกาย/และวัฒนธรรมด้านการบำบัดรักษาสุขภาพ) ฯลฯ กล่าวสำหรับสังคมไทย ถ้าถือเอา "สนธิสัญญาเบาว์ริง” ที่เซอร์ จอห์น เบาว์ริง ตัวแทนสมเด็จพระราชินีกรุงบริเตนใหญ่เข้ามาทำกับสยามในยุคของล้นเกล้ารัชกาลที่ 4 เป็นหมุดหมายของการ "เปิดประเทศ" ให้ฝรั่งชาติตะวันตกเข้ามาค้าขายได้อย่างเสรี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2398 นั้น จนมาถึงบัดนี้ก็ร่วมศตวรรษครึ่งเข้าไปแล้ว แต่ถ้ายึดตามหลักฐานที่นักประวัติศาสตร์ไทยตัวฉกาจอย่าง ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ เคยสาธยายไว้ในเอกสารเรื่อง “การค้าเสรีในสมัยรัชกาลที่ 3” ก็จะพบว่า "นายมอร์แกน" พ่อค้าชาวสหรัฐฯในยุครัชกาลที่ 2 ได้บันทึกไว้ว่า ในปีพ.ศ.2364 เรือกำปั่นของสหรัฐอเมริกาได้เข้ามาค้าขายกับสยามแล้วรวมถึง 12 ครั้ง! ที่น่าสนใจก็คือ ความสัมพันธ์กับชาติตะวันตก(ซึ่งมีอำนาจมากมาโดยตลอด)จากช่วงรัชกาลที่ 2-รัชกาลที่ 4/จากช่วงรัชกาลที่ 5 พ.ศ.2475 (สยามเปลี่ยนระบอบการปกครอง)/จากช่วงพ.ศ 2475-พ.ศ.2501 (จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ขึ้นเถลิงอำนาจ) และจากพ.ศ.2504 (ใช้แผนพัฒนาฯระยะที่ 1) -ปัจจุบัน(เริ่มใช้แผนพัฒนาฯระยะที่ 12?) ชนชั้นนำผู้ใช้อำนาจในการปกครองและบริหารประเทศแต่ละยุคได้ใช้ "กโลบาย" หรือ "กุศโลบาย" ในการ "เรียนรู้" จากชาติมหาอำนาจตะวันตกอย่างไรบ้าง? ที่สำคัญก็คือ ชนชั้นนำเหล่านั้นใช้วิธี “เรียน” หรือ “เลียน” ?! เพื่อที่จะได้ร่วมกันหาคำตอบว่า ประเทศ"สยาม"ที่มาร่วมยุค"ทันสมัย"ในชื่อ"ไทยแลนด์"ดังที่รู้ๆเห็นกันอยู่ในบัดนี้ว่ากำลังก้าวสู่สภาวะ"ล่มสลาย"ทางสังคม เพราะการเปลี่ยนจาก “เรียน” เป็น “เลียน” นั้นเริ่มกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่/และในยุคที่มีใครเป็น'ชนชั้นนำ'?!!!