ดร.วิชัย พยัคฆโส [email protected] เป็นที่มั่นใจและชัดเจนแล้วว่าเราคงต้องทนกับการซื้อหมูราคาแพงต่อไปอีกประมาณ 1 ปีเพราะโรคระบาดอหิวาต์ในหมูทำให้หมูล้มตายไปมาก ตรุษจีนปีนี้คงต้องลดหมูมาไหว้เจ้า เป็นปัจจัยหลักของปัญหาที่รุมเร้ารัฐบาลในเวลานี้ ส่งผลให้รัฐบาลมีปัญหามารุมเร้าตั้งแต่ต้นปีมีทั้งปัญหาด้านเศรษฐกิจและการเมืองทั้งในสภาและนอกสภา รัฐบาลคงต้องหาคำตอบให้ประชาชนได้ทราบว่าจะแก้ไขและปรับปรุงอย่างไร ปัญหาด้านเศรษฐกิจมีหลายประเด็น 1.หมูมีราคาแพงและเป็นต้นเหตุของการปรับราคาสินค้าอื่นกันถ้วนหน้า ทำให้ประชาชนเดือดร้อนโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย 2.ปัจจัยอื่นๆที่ส่งผลตามมาคือค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ค่าแก๊สหุงต้ม ที่รอปรับราคาในเดือนต่อๆไป ประชาชนต้องรับภาระหนักขึ้นทั้งๆที่รายได้น้อยลง ปัญหาเศรษฐกิจจึงเป็นปัญหาหลักที่รัฐบาลต้องเผชิญละแก้ไขโดยด่วน เช่น 1.กระทรวงพาณิชย์เน้นการตรึงการขอขึ้นราคาสินค้าอุปโภคบริโภคไว้ก่อน แต่สินค้าพื้นฐานปรับราคาไปแล้ว 2.กระทรวงพาณิชย์ได้ของบกลาง 1,480 ล้านบาท เพื่อแบ่งเบาภาระของประชาชนด้วยการจำหน่ายสินค้าราคาถูกกว่าตลาด 3,050 แห่งทั่วประเทศ 3.รัฐบาลจัดโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ในวันที่ 14 ก.พ.ซื้อหากันได้ 21 ก.พ. นี้ เ ป็นการลดภาระประชาชน 4.รัฐลดค่าภาษีและธรรมเนียมการโอนบ้านที่ดินในวงเงิน 3 ล้านบาท ในอัตรา 0.01% อีก 1 ปี ในขณะที่รัฐหาทางออกเก็บภาษีรายได้ชดเชยงบประมาณที่ยังต้องกู้เพิ่มมาในปี 2566 หลายรายการ ล้วนแล้วแต่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมหรือไม่ เช่น 1.เก็บภาษีที่ดินตามอัตรากฎหมายใหม่ซึ่งลดมาให้แล้วเป็นเวลา 2 ปีๆละประมาณ 3 หมื่นล้านบาท 2.ริเริ่มเก็บภาษีจากสินทรัพย์ดิจิทัลและหุ้นโดยกระทรวงการคลังกำลังหาทางและมาตรการอยู่ ซึ่งกำลังถูกนักเล่นหุ้นทั้งหลายไม่เห็นด้วยกับการเก็บภาษีนี้ แต่ทั้ง2 เรื่องมีกฎหมายเก็บได้ 3.เก็บค่าเหยียบแผ่นดินสำหรับคนต่างชาติในเดือนเม.ย.ปีนี้บวกเข้าไปกับค่าเครื่องบินอย่างน้อยคนละ 300 บาท/ครั้ง สำหรับปัญหาการเมืองมีหลายเรื่องด้วยกันล้วนแล้วแต่เป็นที่น่าหนักใจแทนทั้งการเมืองในสภาและนอกสภาที่กำลังจะจุดไฟให้ติดเชื้อเพื่อล้มรัฐบาลได้ 1.ฝ่ายค้านเปิดญัตติการอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงคะแนนในการลงมติ โดยเดือนนี้ได้ยื่นคำถามต่อรัฐบาลในประเด็นค่าครองชีพในเดือนนี้ก่อน ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจคาดว่าเดือนหน้า 2.ประเด็นทหารอากาศขอจัดซื้อ F35 จะทำให้การซักถามและการเห็นด้วยกับพรรคฝ่ายค้าน 3.การพ่ายแพ้การเลือกตั้งของสงขลากับชุมพรเท่ากับว่าความนิยมของรัฐบาลน้อยลง 4.ส่วนการเมืองนอกสภาหรือเดินถนนกำลังจะเริ่มออกขับไล่นายกรัฐมนตรีในเร็ววัน ทั้งหมดและทุกมาตรการของรัฐล้วนแล้วแต่เป็นมาตรการระยะสั้นๆยังไม่เห็นจะมีมาตรการใดที่จะก่อให้เกิดความยั่งยืน เป็นจุดอ่อนของรัฐบาลที่จะต้องป้องกันตนเองเท่านั้น ลองดูกันต่อไปว่ารัฐบาลจะเอาตัวรอดหรือไม่ในปัญหาเหล่านี้