ดร.วิชัย พยัคฆโส [email protected] ท่ามกลางอากาศที่แปรปรวนได้เปลี่ยนให้อากาศในเมืองไทยกลายเป็นฤดูหนาวอีกครั้งในเดือนเมษายน ซึ่งปกติจะเป็นฤดูร้อนที่สุดของไทย แต่ความร้อนแรงของการเมืองไทยกลับร้อนแรงมากยิ่งขึ้น ผู้สมัครรับใช้คนกรุงเทพมหานครมีมากถึง 31 คน นับเป็นประวัติศาสตร์ของการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ต้องขอบคุณผู้สมัครที่ยินดีรับใช้คนกรุงเทพมากถึงขนาดนั้น ซึ่งมีทั้งพรรคการเมืองส่งเข้าประกวด การเมืองหนุนหลังกลายๆและบรรดาผู้สมัครอิสระอีกมากมาย แม้ว่าจะมีผู้สมัครมากก็จริง แต่เมื่อวิเคราะห์แล้ว คงมีเพียง 6 รายเท่านั้นที่พอจะมีโอกาสลุ้น แบ่งออกเป็นคนที่พรรคการเมืองส่ง 3 ราย ได้แก่ 1.ดร.สุชัชวีร์ จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นมือใหม่ของภาคการเมือง และยังไม่เคยมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ว่าจะบริหารกรุงเทพมหานครให้จริงจังเพียงใด 2.ดร.วิโรจน์ จากพรรคก้าวไกล ที่มีสโลแกนกล้าชนทุกเรื่องมีเสียงสนับสนุนจากคนรุ่นใหม่ 6-7 แสนคนที่ยังมิเคยเลือกตั้งมาก่อนแต่จะทำงานสัมพันธ์กับรัฐบาลซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามได้หรือไม่ 3.น.ต.ศิธา จากพรรคไทยสร้างไทย โดยมีคุณหญิงเป็นผู้สนับสนุน เท่ากับว่าเลือก นต.ศิธา ให้คุณหญิงมาอีกคน แต่ผู้สมัครยังไม่เคยมีผลงานอะไรโดดเด่นให้ปรากฏ ในส่วนของกลุ่มผู้สมัครอิสระแต่ดูเหมือนว่ามีการเมืองสนับสนุนเงียบๆอีก 3 ราย ได้แก่ 1.พล.ต.อ.อัศวิน อดีตผู้ว่า กทม. ที่เคยเป็นมาแล้วจากการแต่งตั้งของ คสช. มา 5 ปีเศษ มีผลงานที่ปรากฏให้เห็นได้ และผลงานที่ไม่ประสบความสำเร็จ แต่ดูเหมือนพรรคประชารัฐจะหนุนหลังกลายๆ เป็นคนทำงานแต่พูดไม่เก่ง น่าจะมีโอกาสจากการรู้งานจริงมากกว่าคนอื่น 2.ดร.ชัชชาติ เป็นอดีตรมว.กระทรวงคมนาคม แต่ยังไม่เคยมีผลงานเข้าตาประชาชน แต่ลงทุนหาเสียงจนนำโด่งจากการโพลทุกสำนักมา2 ปีเศษ แต่ดูเหมือนพรรคไทยรักไทยจะหนุนหลังและมีกลิ่นของคุณทักษิณ เกาะติดตัวอยู่ 3.คุณสกลธี เป็นอดีตรองผู้ว่า กทม. มาก่อน พอจะรู้งานได้พอสมควร แต่รู้สึกว่าจะมีพรรคพลังประชารัฐ หนุนหลังลับๆอยู่ มีฐานเสียงจากประชาธิปัตย์และ กปปส. บางส่วน ต่างคนต่างรู้ดีว่าเขตที่มีผู้มีสิทธิลงคะแนนมีถึง 171 เขต มีผู้คนที่จะใช้สิทธิมากกว่า 1 แสนคน แต่อยู่รอบนอกกรุงเทพมหานคร และคงต้องรู้ว่าเขตใดมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งใหม่ในเขตใดมาก และจะลุยหาเสียงกับคนกลุ่มนี้ นักวิเคราะห์การเมืองต่างวิเคราะห์ว่า คะแนนของผู้สมัคร 6 รายจะตัดคะแนนกันเอง อย่างน้อยต้องได้ 7 แสนคะแนนขึ้นไปจะมีโอกาสได้เป็นผู้ว่า กทม. แต่คาดว่า พล.ต.อ.อัศวิน อาจเป็นม้ามืดแซงเข้าป้ายได้ ในส่วนของการเมืองระดับประเทศ พรรคพลังประชารัฐจัดประชุมใหญ่ เลือกกรรมการบริหารพรรคไม่ในตำแหน่งที่ว่าง ได้อดีตทหารใหญ่มานั่ง ทำให้ประชาชนเข้าใจกันว่าเป็นพรรคของอดีตทหารชัดเจนมากขึ้น รอดุกันว่าจะสามารถกวาด ส.ส.ได้ 150 ที่นั่งหรือไม่