"ติรตเน สกรฏฺเฐ จ.....สมฺพํเส จ มมายนํ สกราโชชุจิตฺตญฺจ.......สกรฏฺฐาภิวฑฺฒนํ ฯ"

ความนับถือรักใคร่ในพระรัตนตรัยก็ดี

ในรัฐของตนก็ดี

ในวงศ์ตระกูลของตนก็ดี

มีจิตซื่อตรงในพระราชาของตนก็ดี

ย่อมเป็นเครื่องทำให้รัฐของตนเจริญยิ่ง    

คือคาถาในดวงตรามหาจักรี ที่เริ่มต้นคำกล่าวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณของ 63 นายทหารชั้นนายพล ที่นำโดย พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก เบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ บริเวณลานด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5    

ท่ามกลางการบรรยากาศการเลือกตั้ง ที่มีความพยายามปลุกเร้ากระแสเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ที่เริ่มต้นจากมือพ่นสีสเปรย์กำแพงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว นำไปสู่การเคลื่อนไหวรับช่วงต่อของพรรคการเมือง มีการผลิตเสื้อที่นำลวดลายของผู้ต้องหามือพ่นสีสเปรย์มาใส่โชว์ และการเคลื่อนไหวของ 2 ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ที่เคยปฏิบัติการอดข้าวอดน้ำประท้วง ตระเวนไปตามเวทีปราศรัยของพรรคพลังประชารัฐ และการรับสมัครเลือกตั้งส.ส.  

 แม้จะเป็นพิธีตามธรรมเนียมปฏิบัติ หากแต่เสียงและถ้อยความที่ ผบ.ทบ.ได้กล่าวคำปฏิญาณนั้น เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายพึงสดับตรับฟังดังนี้  

"ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศให้กับนายทหารชั้นนายพลของกองทัพบกนั้นนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และเป็นเกียรติยศอันสูงยิ่งของการรับราชการ ตลอดห้วงระยะเวลาที่ผ่านมาปวงข้าพระพุทธเจ้า ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5 ได้ทรงพระราชทาน กำเนิดโรงเรียนนายร้อยแห่งนี้ขึ้น ทั้งยังทรงมีพระเมตตาเปิดโอกาสให้ลูกหลานของประชาชนชาวไทยทั่วไปได้เข้าศึกษา เล่าเรียนโดยไม่แบ่งชั้นวรรณะ เพื่อให้ได้เข้ารับราชการสนองพระเดชพระคุณ ช่วยกันปกปักรักษาเอกราชอธิปไตย ของประเทศชาติราชอาณาจักรไทยให้อยู่มาจนทุกวันนี้ นอกจากนี้ปวงข้าพระพุทธเจ้ายังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ที่ได้ทรงพระราชทานกระบี่ และพระราชทานยศนายทหารสัญญาบัตรมาโดยตลอด    

ห้วงเวลาการรับราชการที่ผ่านมาพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่องค์พระมหากษัตริย์องค์จอมทัพไทยแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์มีต่อปวงข้าพระพุทธเจ้า ปวงข้าพระพุทธเจ้า จักสำนึกและเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม พร้อมทั้ง ขอถวายสัตย์ปฏิญาณจักจงรักภักดีจักยอมอุทิศตน พร้อมเสียสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องและรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของประเทศชาติราชอาณาจักรแห่งนี้ และจักเทิดทูนรักษาไว้ ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งองค์ พระมหากษัตริย์เจ้าพระบรมราชจักรีวงศ์จนกว่าชีวิตจะหาไม่"