เสือตัวที่ 6         

กลางดึก วันที่ 9 เม.ย.66 กลุ่มกองกำลังติดอาวุธของขบวนการแบ่งแยกดินแดนชายแดนใต้ ปฏิบัติการใช้กำลังอาวุธเข้าโจมตีฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ติดอาวุธของรัฐชุดคุ้มครองตำบลบุดี อ.เมือง จ.ยะลา อย่างอุกอาจ โดยกลุ่มกองกำลังติดอาวุธของขบวนการร้ายแห่งนี้มีการวางแผนเป็นอย่างดี ทั้งแผนเข้าโจมตีเป้าหมายและการเล็ดรอดหลบหนีหลังปฏิบัติการครั้งนี้ได้อย่างที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ 100% ด้วยกลุ่มกองกำลังติดอาวุธกลุ่มนี้ได้ใช้ทั้งการเดินเท้าแบบย่องเงียบจนกว่าจะถึงพื้นที่โจมตี และใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะเพื่อการจู่โจมและการถอนตัวอย่างรวดเร็ว โดยใช้ทั้งระเบิดขว้างชนิด        ไปร์บอมบ์และอาวุธสงครามนานาชนิดยิงถล่มฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ ที่ตั้งอยู่ที่บริเวณชุมชนบ้าน    นิบง หมู่ที่ 2 อ.เมืองยะลา ซึ่งคาดว่ากลุ่มกองกำลังติดอาวุธที่ปฏิบัติการครั้งนี้ มีไม่ต่ำกว่า 20 คน  โดยแทรกซึมมาจากด้านหลังของตลาดเกษตรร้าง ด้วยการเดินเท้าเข้าโอบล้อมฐานปฏิบัติการ ชคต.บุดี แล้วใช้อาวุธปืนสงครามนานาชนิดทั้งอาวุธปืนเล็ก และเครื่องยิงลูกระเบิดชนิดเอ็ม 79 ถล่มยิงอย่างรุนแรงกว่า 30 นาที ส่งผลทำให้เกินไฟลุกไหม้ขึ้นภายในโกดังของตลาดเกษตรอย่างรวดเร็ว       

การปฏิบัติการใช้อาวุธสงครามเพื่อการโจมตีฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นกลุ่มคนติดอาวุธของรัฐ โดยปฏิบัติการช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 9 เม.ย. ดังกล่าว แม้ว่าจะไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นเป้าหมายของการโจมตีครั้งนี้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด หากแต่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากฝีมือกลุ่มกองกำลังติดอาวุธของขบวนการแบ่งแยกดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยที่ขบวนการร้ายแห่งนี้ต้องการสร้างสถานการณ์เพื่อส่งสัญญาณเชิงสัญลักษณ์ให้รัฐและประชาคมโลกได้รับรู้ว่าพวกเขายังมีตัวตน และพร้อมที่จะต่อสู้กับรัฐในทุกรูปแบบรวมทั้งการต่อสู้ด้วยอาวุธด้วยศักยภาพอันสูงยิ่งของขบวนการหากการยอมรับในการต่อสู้ของพวกเขาไม่ได้รับการตอบสนองทั้งความต้องการและเงื่อนไขต่างๆ ที่ขบวนการพยายามสื่อสารถึงรัฐในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งการพูดคุยสันติภาพกับรัฐที่มีมาอย่างยาวนาน และห้วงเวลาของการปฏิบัติการโจมตีฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ติดอาวุธของรัฐที่ผ่านมานี้ เป็นห้วงท้ายๆ ของเทศกาลรอมฎอนของพี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ ทั้งนี้ เดือนรอมฎอน เป็นเดือนอันประเสริฐของพี่น้องชาวมุสลิม ที่ชาวมุสลิมทั่วโลก จะร่วมกันถือศีลอด              งดรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม ตั้งแต่เวลาที่ดวงอาทิตย์ขึ้นจนดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า รวมทั้ง ปฏิบัติศาสนกิจตามหลักศาสนาอย่างเคร่งครัดเพื่อเพิ่มพูนผลบุญ และอีกไม่กี่วันชาวไทยมุสลิมก็จะได้ร่วมเฉลิมฉลองวันอีฏิ้ลฟิตริ ร่วมกัน โดยประกาศสำนักจุฬาราชมนตรี ให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศดูดวงจันทร์ ในวันพฤหัสบดีที่ 20 เมษายน 2566 เวลาหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า เพื่อกำหนดวันที่ 1 เดือนเซาวาลหรือวันอีฏิ้ลฟิตริ ฮิจเราะห์ศักราช 1444          

ปรากฏการณ์ของปฏิบัติการโจมตีฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่รัฐที่ถูกออกแบบมาเพื่อการต่อสู้กับกองกำลังติดอาวุธของขบวนการแบ่งแยกดินแดนครั้งนี้ จึงเป็นการปฏิบัติการอันอุกอาจและเหิมเกริมยิ่งของขบวนการแบ่งแยกดินแดนปลายด้ามขวานที่ส่งสัญญาณให้เห็นถึงการมีตัวตนของกลุ่มขบวนการแห่งนี้ที่ยังคงขับเคลื่อนการต่อสู้กับรัฐเพื่อให้ได้มาซึ่งเป้าหมายสุดท้ายที่ต้องการนั่นคือความมีอิสระในการปกครองกันเองตามวิถีที่กลุ่มตนต้องการ โดยใช้ห้วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ของพี่น้องชาวไทยมุสลิมในเดือนรอมฎอนเป็นห้วงเวลาในการปฏิบัติการอันอุกอาจยิ่งในครั้งนี้ แม้ว่าแม่ทัพภาคที่ 4 จะตระหนักในปฏิบัติการของกองกำลังติดอาวุธของขบวนการร้ายแห่งนี้ที่มักจะใช้ห้วงเวลาของเทศกาลถือศีลอดของพี่น้องชาวไทยมุสลิมคือรอมฎอน เป็นห้วงเวลาของการปฏิบัติการด้วยอาวุธเพื่อแสดงสัญลักษณ์ให้รับรู้ว่าขบวนการร้ายแห่งนี้ ยังคงต่อสู้กับรัฐอย่างต่อเนื่องและยังมีศักยภาพในการต่อสู้กับรัฐอย่างสูงยิ่งในทุกรูปแบบ        

ปรากฏการณ์ครั้งนี้ เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ชี้ให้เห็นว่าความสามารถในการปิดลับการวางแผนโจมตีที่ไม่มีหลุดรอดมาถึงหูฝ่ายข่าวของรัฐที่มีอยู่ดาษดื่นเต็มพื้นที่ ความสามารถของขบวนการแบ่งแยกดินแดนที่ปิดลับการซักซ้อมการเข้าโจมตีฐานกองกำลังติดอาวุธของรัฐให้ปฏิบัติการครั้งนี้มีความสอดประสานกันอย่างลงตัวโดยที่ไม่มีข่าวสารใดๆ หลุดรอดออกมายังฝ่ายข่าวของรัฐได้แม้แต่น้อย ทำให้การปฏิบัติการใช้อาวุธนานาชนิดเข้าโจมตีฐานกองกำลังติดอาวุธของรัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่ง ทั้งยังสามารถเล็ดรอดหลบหนีไปได้โดยฝ่ายกองกำลังขบวนการที่เข้าปฏิบัติการครั้งนี้ ไม่มีการสูญเสียหรือถูกสกัดกั้นจับกุมจากเจ้าหน้าที่รัฐได้แต่อย่างใดดุจมืออาชีพ          

การโจมตีฐานปฏิบัติการของกองกำลังติดอาวุธของขบวนการแบ่งแยกดินแดนครั้งนี้ จึงเป็นภาพจำที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ที่ฝ่ายความมั่นคงของรัฐไม่อาจล่วงรู้วัน เวลา และพื้นที่เป้าหมายในการโจมตีของกองกำลังติดอาวุธของขบวนการได้เลยแม้แต่น้อย นั่นแสดงให้เห็นว่า การขับเคลื่อนการต่อสู้กับรัฐของขบวนการแบ่งแยกดินแดนปลายด้ามขวานแห่งนี้ ไม่มีการลดราวาศอก หรือลดทอนกำลังความเข้มแข็งลงแต่อย่างใด ในทางตรงข้าม ปรากฏการณ์ความถี่ในการก่อเหตุความรุนแรงทั้งหลายที่ผ่านมาระยะหลังนี้ ไม่ใช่ตัวบ่งชี้ความสำเร็จในการต่อสู้ของรัฐที่แท้จริง ความรุนแรงด้วยอาวุธในพื้นที่จึงไม่ใช่ภาพจริงที่บ่งบอกว่าสถานการณ์ในพื้นที่สมรภูมิแห่งนี้ดีขึ้น หากแต่การต่อสู้ของขบวนการแบ่งแยกดินแดนยังคงความเข้มข้น จริงจัง และทรงพลังยิ่งในทุกรูปแบบทั้งการต่อสู้ทางความคิด การยึดครองหัวใจมวลชนคนในพื้นที่ ตลอดจนการต่อสู้ด้วยอาวุธอย่างที่เห็นเสมอมา มีก้าวล้ำนำกว่าภาครัฐอยู่อย่างน้อย    2 - 3 ก้าวเสมอมา และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เป็นการปฏิบัติการเชิงสัญลักษณ์ให้ภาครัฐยอมรับความจริง