แม้เศรษฐกิจไทยจะมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ภายหลังมาตรการเปิดประเทศ และขับเคลื่อนเครื่องยนต์เศรษฐกิจ ภาคการท่องเที่ยว การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ดึงดูดการลงทุนอุตสาหกรรมใหม่เขตพื้นที่เศรษฐกิจ EEC

กระนั้น ไทยยังคงเผชิญปัญหาเศรษฐกิจ ที่มีความท้าทายหลายปัจจัย ที่เป็นโจทย์ใหญ่สำหรับรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ โดยนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ฉายภาพปัญหาเศรษฐกิจ ที่รัฐบาลใหม่จะต้องเผชิญ ในการกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "ทิศทางเศรษฐกิจไทยหลังการเลือกตั้ง" ในเวที "อนาคตประเทศไทยหลังเลือกตั้ง" จัดโดยสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติว่า รัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามารับตำแหน่งและเริ่มบริหารประเทศต่อจากรัฐบาลปัจจุบันจะพบกับปัญหาเศรษฐกิจโลกพอสมควร ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่การบริหารเศรษฐกิจจะยาก เป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปี เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ต่อเนื่องเพื่อสู้กับเงินเฟ้อ ส่วนดอกเบี้ยของไทยนั้นคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 - 3 ครั้ง ซึ่งทำให้ดอกเบี้ยนโยบายในประเทศไทยอยู่ที่ระดับ 2.5% หรือปรับขึ้นจากในช่วงที่เคยเกิดวิกฤติโควิด19 ประมาณ 1.75 - 2%

ทั้งนี้ การบริหารงานช่วง 1 ปีแรกของรัฐบาลใหม่จะยาก ก่อนที่จะค่อยๆคลี่คลาย หลังจากเดือน ส.ค.ปีหน้า ซึ่งในช่วงแรกรัฐบาลจะทำนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจได้เลย แต่ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แค่ทำในเรื่องของการปลดล็อกการท่องเที่ยวโดยการฟรีวีซ่าเพื่อดึงการท่องเที่ยวในช่วงเวลาประมาณ 1 ปี เพื่อให้รายได้จากการท่องเที่ยวที่เข้ามาไปชดเชยการส่งออกและตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงถือว่าเป็นแนวทางที่ทำให้เศรษฐกิจไทยในช่วง 1 ปีต่อจากนี้สามารถขยายตัวได้

นายกอบศักดิ์ ยังมองว่านโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่จะไม่มีความเป็นเอกภาพมากนักเนื่องจากเป็นรัฐบาลผสม ซึ่งแต่ละพรรคก็มีนโยบายเร่งด่วน และนโยบายที่จะให้ความสำคัญในการขับเคลื่อน ซึ่งคล้ายกับรัฐบาลผสมในช่วงรัฐบาลที่ผ่านมา ซึ่งนโยบายเศรษฐกิจไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม เรามองว่า ข้อสังเกตของนายกอบศักดิ์นั้นจะเป็นประโยชน์ต่อว่าที่รัฐบาลชุดใหม่ เพราะต่อให้ปัจจัยภายนอกหนักหนาสาหัสขนาดไหน หากภายในแข็งแกร่ง และเป็นหนึ่งเดียวก็จะสามารถบรรลุเป้าหมายหรือลดผลกระทบในทางร้าย

การสะท้อนจุดอ่อนดังกล่าว เป็นสิ่งต้องแก้ปัญหาเป็นอันดับแรก นั่นคือความเป็นเอกภาพ ที่แม้แต่ละพรรคการเมือง ในพรรคร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะเป็นนโยบายที่ดีเพียงใด แต่หากต่างคนต่างทำกันไปคนละทิศละทาง ก็ยากจะที่ประสบความสำเร็จได้

ดังนั้น โจทย์ข้อใหญ่ที่ต้องทลายคือกำแพงความเป็นพรรค ให้ยึดหลักความเป็นทีมไทยแลนด์ เพื่อเศรษฐกิจไทยจะได้พ้นหลุมดำ