รัฐธรรมนูญ มาตรา 258 (1)  กำหนดให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองรวมตลอดทั้งการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ รู้จักยอมรับในความเห็นทางการเมืองโดยสุจริตที่แตกต่างกัน และให้ประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้งและออกเสียงประชามติโดยอิสระปราศจากการครอบงำไม่ว่าด้วยทางใด

โดยกลไกการมีส่วนร่วมของประชาชนนั้น ทำได้โดยผ่านการเลือกตั้ง ร่วมจัดตั้งพรรคการเมือง เป็นสมาชิกพรรคการเมือง การเข้าชื่อกันเพื่อเสนอกฎหมาย และการเข้าชื่อกันถอดถอนนักการเมืองและข้าราชการระดับสูง การออกเสียงประชามติ ประชาพิจารณ์ต่างๆ เป็นต้น

สถานการณ์ปัจจุบัน ผู้คนมีความตื่นตัวและให้ความสนใจการเมืองอย่างมาก ในห้วงที่การเมืองหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ในการเลือกนายกรัฐมนตรี การเคลื่อนไหวแสดงความคิดเห็นโลกออนไลน์ อาจสะท้อนถึงการตื่นตัว หลังประชาชนมีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามเมื่อผลปรากฏออกมาไม่เป็นไปตามความคาดหมาย ก็ได้เกิดการเคลื่อนไหวคาร์ม็อบ และเกิดปัญหาไซเบอร์บูลลี่ ทั้งต่อตัวส.ส. ส.ว.  ครอบครัวและธุรกิจของกลุ่มส.ว.ที่เห็นต่าง

กระนั้น ภายใต้ปรากฎการณ์ล่าแม่มด ยังมีสิ่งที่ต้องคำนึงโดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย ซึ่งบัญญัติเป็นความผิดไว้อย่างขัดเจน ได้แก่ กรณีใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม และทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง เข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาท ตาม ป.อาญา มาตรา 326 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับกรณีเป็นการหมิ่นประมาทโดยมีป่าวประกาศต่อสาธารณะ จะเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตาม ป.อาญา มาตรา 328 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีเป็นการแสดงความคิดเห็นในลักษณะข่มขู่ทำให้เจ้าของบัญชีเกิดความกลัว จะเข้าข่ายความผิดตาม ป.อาญามาตรา 392 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีเป็นการแสดงความคิดเห็นในลักษณะดูหมิ่นผู้อื่น และเป็นการแสดงความคิดเห็นในที่สาธารณะ จะเข้าข่ายความผิดฐานดูหมิ่นด้วยการโฆษณาตาม ป.อาญา มาตรา 393 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

และกรณีนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่เป็นภาพตัดต่อของผู้อื่นในลักษณะที่จะทำให้บุคคลนั้นได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย จะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา16 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท