ท่ามกลางบรรยากาศการเมืองที่ชิงไหวชิงพริบ และกลเกมที่สลับซับซ้อน อีกทั้งประเด็นที่แหลมคม เหนือความคาดหมาย กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่เชื่อมโยงต่อสถาบัน ทำให้มีการต่อสู้กันทางความคิดบนโลกออนไลน์อย่างดุเดือด

ขณะที่ผู้คนที่มีอิทธิพลบนสื่อโซเชียลมีเดีย หรือ Influencer บางคน ที่เต้าข่าวเกี่ยวกับเบื้องสูงมานาน มีอันต้องเสียผู้เสียคนไป เพราะข้อมูลที่นำมาเปิดเผยนั้น ถูกตอบโต้ด้วยความจริง และตัวจริงเสียงจริง

อย่างไรก็ตาม แม้การต่อสู้กันทางความคิด ในบ้านเรานั้นอาจมีการกระทำที่ไม่เหมาะสม จากทั้งในโลกออนไลน์ และในโลกจริง ในช่วงวิกฤติความขัดแย้งบ้าง แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ข่มขู่เอาชีวิตกันเหมือนอย่างในสหรัฐฯ

ที่มีรายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศ ระบุว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางแห่งชาติสหรัฐฯ หรือเอฟบีไอ ได้วิสามัญฆาตกรรมต่อชายชาวยูทาห์รายหนึ่ง ซึ่งได้โพสต์ข้อความขู่ลอบสังหารประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ผ่านทางเฟซบุ๊ก ที่ย่านโปรโว เมืองซอลท์เลกซิตี รัฐยูทาห์ สหรัฐฯ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น

ตามข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ ได้บุกจู่โจมเข้าไปในบ้านพักของชายคนดังกล่าว ซึ่งทราบชื่อต่อมาภายหลังว่านายเคร็ก โรเบิร์ตสัน อายุ 75 ปี เพื่อพยายามจับกุม แต่เหตุการณ์จบลงด้วยการเสียชีวิตของชายรายนี้ ซึ่งพยานผู้เห็นเหตุการณ์เปิดเผยว่า นายโรเบิร์ตสันมีอาวุธปืนอยู่ในมือ ซึ่งการวิสามัญฯ ข้างต้น มีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีไบเดน กำลังจะเดินทางมาเยือนรัฐยูทาห์

พร้อมกันนี้ รายงานข่าวเผยว่า นายโรเบิร์ตสัน ได้เตรียมชุดพรางคล้ายทหาร และทำความสะอาดปืนไรเฟิลแบบเอ็ม24 ซึ่งอาวุธปืนดังกล่าว สามารถใช้ซุ่มยิงได้ในระยะไกล

ขณะที่การสืบสวน สอบสวน ของเจ้าหน้าที่ฯ พบว่า นายโรเบิร์ตสันโพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยมีข้อความทั้งขู่ฆ่า และคุกคามต่อประธานาธิบดีไบเดนหลายครั้ง และบางข้อความก็อ้างว่า ตัวเขาคือ “มากา ทรัมป์ (MAGA Trump” อันเป็นสโลแกนการรณรงค์หาเสียงของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ว่า "Make America Great Again" ด้วย

ด้วยความเคารพผู้ตาย กรณีดังกล่าวอาจให้บทเรียนต่อบรรดาผู้สนับสนุนทางการเมือง หรือบรรดาแฟนคลับ หรือปัจจุบันที่เรียกว่า “แฟนด้อม” ให้ระมัดระวังในการแสดงออกทางความคิด และความเห็นทางการเมือง ในโลกออนไลน์