เสือตัวที่ 6

การต่อสู้ในสมรภูมิพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย มีการใช้การต่อสู้ที่กว้างขวางออกไปในหลายมิติ ทั้งการเมืองระดับท้องถิ่น การเมืองระดับชาติ และการเมืองระดับนานาชาติไปพร้อมๆ กันอย่างกลมกลืน ขบวนการแบ่งแยกการปกครองจากรัฐในพื้นที่ที่มีกลุ่ม BRN เป็นแสดงตัวหลักในการขับเคลื่อนการต่อสู้กับรัฐ ใช้ทุกเวทีที่มีโอกาสต่อสู้อย่างได้เปรียบทั้งการเอาชนะจากภายในประเทศควบคู่กับการเอาชนะจากภายนอก นั่นคืออาศัยพลังการต่อสู้จากต่างประเทศโดยเฉพาะในองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์การสหประชาชาติ(UN) สหภาพยุโรป (EU) หรือ องค์การความร่วมมืออิสลาม (Organization of Islamic Cooperation: OIC) ซึ่งเป็นองค์กรหลักระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่มีประชาชนชาวอิสลามอาศัยอยู่

และเมื่อ 10 สิงหาคม 2566 นายฮุซัยน์ บรอฮีม ฏอฮา (H.E. Mr. Hissein Brahim Taha) เลขาธิการองค์การความร่วมมืออิสลาม (Organization of Islamic Cooperation: OIC) เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ การเดินทางมาเยือนประเทศไทยเป็นทางการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้รับทราบข้อมูลและเข้าใจสถานการณ์ในไทยได้ดียิ่งขึ้น โอกาสนี้ไทยได้เน้นย้ำถึงสิทธิเสรีภาพในการนับถือทุกศาสนาอย่างเท่าเทียม โดยมีการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างผู้คนทุกเชื้อชาติและศาสนา โดยชาวไทยมุสลิมสามารถแสดงออก และปฏิบัติศาสนกิจได้อย่างเสรี และที่ผ่านมาชาวมุสลิมมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมีชาวไทยมุสลิมหลายคนที่มีตำแหน่งระดับสูงในไทย

ในโอกาสนี้ เลขาธิการ OIC กล่าวชื่นชมไทยที่ให้เสรีภาพปฏิบัติศาสนกิจของทุกศาสนาอย่างเท่าเทียมกัน โดยเลขาธิการ OIC ได้มีโอกาสไปเยือนชุมชนกุฎีจีน ซึ่งได้สำรวจพื้นที่และพบกับผู้คนจากทั้งศาสนาพุทธ คริสต์ และอิสลาม สะท้อนถึงการเป็นแบบอย่างในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในสังคมพหุวัฒนธรรม นอกจากนี้ OIC ยังชื่นชมรัฐบาลไทยในการสร้างสันติสุขและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการประชุมของ OIC ในหลายโอกาสได้ชื่นชมความพยายามของรัฐบาลไทย รวมถึงกล่าวถึงประเทศไทยในเชิงบวกและสร้างสรรค์ ในขณะที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้พัฒนาความเป็นอยู่ของพี่น้องในพื้นที่ จชต.มาอย่างต่อเนื่องจนสามารถเห็นผลเป็นรูปธรรม ทั้งการขับเคลื่อนและการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากทางด้านอาหารในพื้นที่ พิจารณาโครงการ 1 ตำบล 1 เกษตรเพื่อการท่องเที่ยว และหารือเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคของการศึกษาที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง

ซึ่งรัฐโดย ศอ.บต. ได้ดำเนินการพัฒนาพื้นที่ จชต. ภายใต้โครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่องด้วยงบประมาณของประเทศจำนวนมหาศาล อย่างไรก็ตาม การพัฒนาและแก้ไขปัญหาในพื้นที่ มีปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหา 2 ปัจจัย ทั้งในและต่างประเทศ ในส่วนปัญหาภายในประเทศเกิดจากปัญหาด้านกายภาพ ความเหลื่อมล้ำ รวมทั้งการตอบสนองต่อข้อเรียกร้องที่ไม่เป็นไปตามความประสงค์ของประชาชนบางส่วนในพื้นที่ เชื่อมโยงกับเงื่อนไขอื่นๆ ที่ฝ่ายขบวนการแบ่งแยกดินแดนปลายด้ามขวานพยายามสร้างขึ้นด้วยการต่อเติม เสริมแต่ง บิดเบือนให้เกิดความเกลียดชัง อาทิ ข้อมูลทางประวัติศาสตร์เชิงบาดแผล การถูกยึดครองจากรัฐในอดีต การถูกรุกราน ถูกล้มล้างอัตลักษณ์มลายูประจำถิ่น เป็นต้น โดยทั้งหมดได้ถูกนำไปเป็นเงื่อนไขของปัญหาที่จะนำไปสู่ความรุนแรงที่เกิดขึ้น และเป็นเงื่อนไขสำคัญประการหนึ่งในการปลุกระดมทางความคิดให้กับมวลชนในพื้นที่มีความต้องการแบ่งแยกการปกครองออกจากประเทศไทยไปเป็นอิสระ ทั้งยังถูกเชื่อมโยงให้เกิดแรงผลักดันจากปัจจัยภายนอกประเทศขณะนี้ ที่เกิดจากอิทธิพลของโลกตะวันตกและโดยเฉพาะโลกมุสลิม อาทิ องค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC)

ที่ผ่านมา รัฐไทยก็สามารถทำได้ดีในระดับหนึ่ง สำหรับการต่อสู้กับยุทธศาสตร์การเอาชนะจากภายนอกของขบวนการร้ายแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเมื่อ 29-30 มิ.ย.65 ภายหลังเลขาธิการ OIC เดินทางเยือนพื้นที่ปลายด้ามขวานแห่งนี้ และกลุ่มทูตประเทศมุสลิมเยือนชายแดนใต้ ในวันที่ 25-27 ก.ค. 66 ที่ผ่านมา โดยทุกประเทศพร้อมยินดีให้การสนับสนุน และช่วยเหลือการแก้ไขปัญหาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และประเทศไทย และล่าสุด เมื่อ 10 ส.ค.66 ที่ผ่านมา เลขาธิการ OIC มาเยือนไทย พร้อมกล่าวชื่นชมไทยว่าเป็นแบบอย่างการพัฒนาพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ โดยเฉพาะการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของทุกศาสนา พร้อมเชิญไทยแบ่งปันประสบการณ์ด้านการพัฒนาและการเกษตรในแอฟริกา ซึ่งบรรยากาศที่ผ่านมาเริ่มเห็นการสนับสนุนการแก้ปัญหาความขัดแย้งของรัฐไทยที่ชัดเจนมากขึ้น และถ้าประเทศโลกมุสลิมทั้งโลกหันมาให้การสนับสนุนรัฐไทยในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างจริงจัง ก็จะสามารถคลี่คลายปัญหาในพื้นที่ได้ง่ายและมีโอกาสเป็นจริงมากขึ้น

ดังนั้น หากประเทศในโลกตะวันตก องค์กรระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในโลกมุสลิม อย่าง OIC มีความเข้าใจรับรู้ว่ารัฐไทยได้ใช้ความพยายามอย่างจริงใจอย่างมากในการแก้ไขปัญหาความเห็นต่างจนนำไปสู่ความขัดแย้งด้วยอาวุธจากกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่มีกลุ่ม BRN เป็นตัวแสดงหลัก โดยรัฐไทยมุ่งใช้การพัฒนาทั้งทางกายภาพ ชีวิตความเป็นอยู่ ดูแลพี่น้องคนไทยมุสลิมเป็นอย่างดี ให้ความเป็นธรรม และการดำรงชีวิตอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรีเสมอกัน ให้สิทธิเสรีภาพในการนับถือและดำเนินชีวิตตามวิถีทางทางศาสนาและความเชื่อของคนในพื้นที่อย่างเต็มกำลัง และกล้าที่จะนำพาทุกคนเข้าพิสูจน์ความพยายามอย่างจริงใจถึงในพื้นที่ปลายด้ามขวานแห่งนี้อย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา ซึ่งหากทำเช่นนี้ได้ ก็เชื่อว่าจะลดอิทธิพลจากพลังภายนอกประเทศในการสนับสนุนขบวนการแบ่งแยกดินแดนแห่งนี้ไปได้มหาศาล