หลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566  แต่ภารกิจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต.ยังไม่จบสิ้น ยังคงมีเรื่องร้องเรียนต่างๆของบรรดาส.ส. และพรรคการเมือง ขณะที่เร็วๆนี้จะมีการเลือกตั้งซ่อมส.ส.ระยอง เขต 3 ในวันที่ 10 กันยายน 2566 ที่จะมาถึงนี้ ที่เป็นการต่อสู้กันระหว่างขั้วเดียวกันเอง คือฝ่ายค้านในปัจจุบัน

กระนั้น ในห้วงที่ผ่านมา ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่มีการต่อสู้อย่างดุเดือดรุนแรง  แม้กกต.จะพยายามยกระดับการทำงานให้รวดเร็ว โปร่งใส ด้วย ระบบ ECT REPORT แต่ก็เปรียบเหมือนกรรมการห้ามมวย ที่มักโดนลูกหลง ตกเป็นเป้าในการจับตาและวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะในโลกออนไลน์

ทั้งนี้ ในกิจกรรมเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง กับผู้บริหารหรือบรรณาธิการ สื่อออนไลน์ต่างๆ ประจำสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เอกสารที่เผยแพร่ให้กับสื่อมวลชน มีถ้อยแถลงของ นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. บางช่วงบางตอนสะท้อนการทำหน้าที่ของ กกต. ดังนี้ “…การดำเนินภารกิจต่าง ๆ ของคณะกรรมการการเลือกตั้งและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 ถึงปัจจุบัน รวมเวลา 25 ปี ได้ดำเนินงานต่างๆ  ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แม้บางครั้งจะต้องประสบกับวิกฤตการณ์ทางการเมือง หรือภัยธรรมชาติที่รุนแรง และการดำเนินงาน จะได้รับคำชื่นชม ติเตียน หรือคำวิพากษ์วิจารณ์ที่รุนแรงก็ตาม แต่ก็ยังคงยืนหยัด มุ่งมั่นปฏิบัติงาน โดยไม่ย่อท้อเพื่อให้ภารกิจต่าง ๆบรรลุผลสำเร็จตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อธำรงไว้ซึ่งการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แม้ในปัจจุบันจะได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้อง กำหนด ภารกิจหน้าที่สำคัญของคณะกรรมการการเลือกตั้งและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง มิได้แตกต่างจากเดิมมากนัก หากแต่ได้กำหนดภารกิจให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นในการส่งเสริม สนับสนุน ให้หน่วยงานของรัฐ สถาบันการศึกษา และองค์กรเอกชน ในการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข การมีส่วนร่วมทางการเมืองภาคประชาชน หรือให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการเลือกตั้ง และความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ในการนี้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจึงได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี  (2561-2580 โดยเร่งรัดบูรณาการ การบริหารการจัดการเลือกตั้ง และ การบริการดิจิทัล เสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายประชาธิปไตยและส่งเสริมการพัฒนา พรรคการเมือง สร้างเสริมความรู้  พลังศรัทธา และพลังร่วมวิถีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ ให้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับระดับสากล ในกระบวนเลือกตั้งอย่างมืออาชีพในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการได้ดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ดังกล่าวเพื่อนำ ไปสู่ เส้นทางการจัดการเลือกตั้งสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืน”

อย่างไรก็ตาม ในเอกสารเผยแพร่ยังรายงานผลจากแนวคิดที่ต้องการให้ประชาชนมีส่วร่วมในการป้องกันการทุจริต ในการเลือกตั้ง ผ่านแอฟพลิเคชัน “ตาสับปะรด” โดยปัจจุบันมีผู้สนใจดาวน์โหลดและติดตั้งแอปฯจำนวน 21,792 คน  และมีผู้ลงทะเบียนเข้าใช้งาน  4,818 คน  ขณะที่มีรายงานสถิติคำร้อง และสำนวนเรื่องคัดค้านการเลือกตั้ง ตั้งแต่ปี2563 -2566 จำนวน 5,003 เรื่อง ดำเนินคดีขึ้นศาลแล้ว 328 เรื่อง สั่งไม่รับและยุติแล้ว 2,546 เรื่อง ยกคำร้อง1,778 เรื่อง ระงับสิทธิ์แล้ว 24 เลือกตั้ง/ลงคะแนนใหม่ 1 และนับคะแนนใหม่ 9 คงเหลืออีก 307 เรื่อง

ที่สำคัญ  เลขาธิการกกต. ยังยืนยันหลักการในการสื่อสารต่อสาธารณะคือ  ยึดหลักพูดความจริง และความจริงใจ พร้อมกับให้ความมั่นใจว่า กกต.ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่ช่วยเหลือใคร