จับตาราคาน้ำมัน

แม้ผู้เชี่ยวชาญจะประเมินว่า เหตุสู้รบในตะวันออกกลาง จะไม่บานปลายและไม่ยืดเยื้อเหมือนรัสเซียกับยูเครน

หากแต่เมื่อย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ผู้เชี่ยวชาญก็ประเมินว่า สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนจะไม่ยืดเยื้อเช่นกัน แต่นับจากวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 จนถึงวันที่ สงครามดำเนินมากว่า 1 ปีกับอีก 7 เดือน

ในขณะที่ความขัดแย้งและการสู้รบกันระหว่างอิสราเอล กับปาเลสไตน์ นั้นมีมาอย่างยาวนาน การโจมตีครั้งรุนแรงที่เกิดขึ้น คาดการณ์จะทำให้โลกเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผลกระทบด้านพลังงาน

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ รายงานว่านายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า สนพ.ได้ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกในเดือนกันยายน 2566 พบว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม โดยเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนของปี 2566 โดยมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย อาทิ ความกังวลต่ออุปทานตึงตัวหลังซาอุดิอาระเบียขยายระยะเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมที่ 1.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไปถึงสิ้นปี 2566 ขณะที่รัสเซียปรับลดการส่งออกลง 0.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน จนถึงสิ้นปีนี้เช่นกัน

ทั้งนี้ รายงานประจำเดือนกันยายน 2566 กลุ่ม OPEC ได้เปิดเผยการคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันของโลกว่า จะปรับเพิ่มขึ้นอีก 2.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปี 2567 เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจโลกในปีหน้าที่มีแนวโน้มดีขึ้น ขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) คาดว่าความต้องการใช้น้ำมันจะเติบโตขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปี 2567

ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน  กล่าวถึงกรณีสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส (Hamas) หรือองค์กรการเมืองติดอาวุธของชาวปาเลสไตน์ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับตัวพุ่งสูงกว่า 4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในช่วงตลาดซื้อขายของเอเชีย โดยน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ราคาปรับเพิ่มขึ้น 4.18 ดอลลาร์ หรือ 4.94% ที่ระดับ 88.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และ น้ำมันดิบเวสต์เท็สซัส (WTI) ราคาปรับเพิ่มขึ้น 4.23 ดอลลาร์ หรือ 5.11% ที่ระดับ 87.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (ราคา ณ วันที่ 9 ตุลาคม2566)

ทั้งนี้ น้ำมันดิบราคาพลิกฟื้นกลับขึ้นมาจากระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือน หลังถูกเทขายมานานหลายสัปดาห์ จากความกังวลเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ซึ่งอาจกระทบความต้องการทั่วโลก 

ด้านนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน  เชื่อว่าจะกระทบระยะสั้นเท่านั้นโดยขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบอะไร เพราะเราได้มีการซื้อน้ำมันเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว อยู่ระหว่างการขนถ่ายมาที่ประเทศไทย แต่ถ้าระยะยาว ต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป เพราะหากจะกระทบมันก็ไม่ใช่กระทบเฉพาะประเทศไทย แต่กระทบไปทั่วโลก อีกทั้งมั่นใจว่าจะไม่มีผลกระทบกับราคาน้ำมันในปัจจุบัน เพราะเป็นราคาที่เราซื้อไว้ก่อนแล้ว และต้องควบคุมดูแลตรงนั้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกระทรวงพลังงานจะมีการติดตามสถานการณ์การสู้รบครั้งนี้อย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม เราคาดหวังว่ารัฐบาลจะมีมาตรการรองรับทั้งแผนระยะสั้นและระยะยาว เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน