อย่าให้เป็นบูมเมอแรง

ช็อกสังคมอีกครั้ง หลังเหตุสังหารสารวัตรทางหลวงกลางงานวันเกิดกำนันดัง ล่าสุด หลังรัฐบาลมีนยายประกาศสงครามสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย ก็เกิดเหตุหัวหน้าด่านกักสัตว์ จ.เพชรบูรณ์ ถูกยิงเสียชีวิตขณะเข้าตรวจสอบห้องเย็นแห่งหนึ่ง ที่อ.หล่มศักดิ์

เรื่องนี้  นายไชยา  พรหมา  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายชัย  วัชรงค์  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีร่วมแถลงข่าวระบุชัด ผู้ประกอบการ อาศัยอิทธิพลท้องถิ่น รู้จักมักคุ้นกับ ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ถือเป็นเรื่องไม่ปกติ

นายไชยา ยังกล่าวว่า ขอเรียนว่าไม่ใช่อิทธิพล ท้องถิ่นธรรมดา แต่เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ การนำเข้า เนื้อเถื่อนทำแบบมีเครือข่ายเชื่อมโยงกันมากมาย นอกจากเรื่องดังกล่าวแล้ว ผมยังได้รับการรายงานเมื่อช่วงเช้า วันนี้ว่า จะเปิดตู้คอนเทนเนอร์ 60 ตู้  ที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นคดีอยู่  แต่ได้รับการปฏิเสธ จากนี้เราจะเอกซเรย์ห้องเย็นทั่วประเทศ เพื่อตรวจสอบขบวนการนำเข้าเนื้อสัตว์เถื่อน

ขณะที่รัฐบาล โดยกระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อผู้มีอิทธิพล โดยนายชาดา ไทยเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย คาดว่า จะสามารถส่งรายชื่อได้ในช่วงสิ้นเดือนตุลาคมนี้ พร้อมตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ว่า มีกังวลจังหวัดใดเป็นพิเศษหรือไม่ นายชาดา กล่าวว่า จ.นครปฐม เพราะมีการยิงกันบ่อย แต่ก็มีอีกหลายจังหวัด

อย่างไรก็ตาม มีเสียงเตือนจาก  นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง  ออกมาท้วงติงนโยบายการจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีอิทธิพล โดยมองว่ารัฐบาลไม่มีสิทธิทำ เนื่องจากไม่มีกฎหมายใดรองรับ 

“รัฐบาลที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย ใช้อำนาจอะไรบอกว่าใครคือผู้มีอิทธิพล รัฐบาลประยุทธ์ที่ท่านอ้างว่าเป็นเผด็จการ ก็ไม่กล้าทำเรื่องแบบนี้ รัฐบาลมีความชอบธรรม ที่จะปกป้องคนดี ปกป้องสุจริตชน ใครผิดก็จัดการตามกฎหมาย แต่การระบุว่าใครเป็นผู้มีอิทธิพล ผมว่า ไม่มีกฎหมายรับรอง และรัฐบาลนั่นแหละจะกลายเป็นผู้มีอิทธิพลเสียเอง จำไว้นะครับ ประเทศปกครองด้วยกฎหมาย มิได้ปกครองด้วยรัฐบาล เพราะรัฐบาลก็อยู่ภายใต้กฎหมาย ผมไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลแน่นอน แต่หากใครถูกจัดเป็นผู้มีอิทธิพล และ มีรายชื่อหลุดออกมา ผมเชื่อว่ารัฐบาล จะพังกับเรื่องนี้แหละ และครม. ที่นั่งอยู่ในที่ประชุมเวลามีการรายงานเรื่องนี้ ผมว่า เสี่ยงครับ ไม่เชื่อลองดู!!”

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสถานการณ์ที่แหลมคมเช่นนี้ รัฐบาลกำลังถูกท้าทาย ในการที่จะเดินหน้าปราบปรามผู้มีอิทธิพล โดยมีเครื่องมือเป็นการจัดทำบัญชีผู้มีอิทธิพล  ในขณะที่ก็ต้องระมัดระวังหลัง ไม่ให้รายชื่อหลุด ป้องกันเหตุอื่น ทั้งนี้เพื่อไม่ให้อาวุธสำคัญ กลายเป็นบูมเมอแรงกลับมาทิ่มแทง