จริงๆ เรื่องซอฟต์พาวเวอร์ ที่จะมีการจัดสรรงบประมาณเพื่อผลักดันอุตสาหกรรมเป้าหมาย  11 สาขาสู่ตลาดโลก นั้นเป็นเรื่องน่าสนใจทีเดียว ลงลึกและต่อยอดไปจากกรอบเดิมยุครัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่วางเอาไว้5 F Food Fashion Film Festival Fighting  ที่เป็นเครื่องมือในการเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์  

โดยเฉพาะกรอบแนวคิด ที่มีการนำงบประมาณของกระทรวงต่างๆ มารวบรวมและเรียบเรียงใหม่ เพียงแต่สิ่งที่หลายฝ่ายกังวล คือการนำงบประมาณมาจัดงานอีเวนต์ที่ไม่ได้มียุทธศาสตร์ที่ส่งเสริมอย่างยั่งยืน จับฉ่าย เหมือนเล่นขายของ หวังกระแสวูบวาบ กระนั้น หากวิจารณ์ไปตอนนี้ ก็อาจกลายเป็นอคติ และติเรือทั้งโกลน คงต้องติดตามรอดูรายละเอียดต่อไป

ในมุมของการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านทุนวัฒนธรรมนั้น  เพียงละครพรหมลิขิต ออกอากาศก็ปลุกกระแสแต่งชุดไทยเที่ยววัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และแต่งชุดไทยเที่ยว วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารกันจนกลายเป็นกระแสคึกคัก 

เพียงแต่ภาครัฐ จะต่อยอดอย่างไรกับกระแสนี้ได้บ้าง การฟื้นฟูบูรณะให้กลับมาวิจิตรตระการตาอีกครั้ง และจะทำอย่างไร หากไม่มีกระแสซีรีย์ หรือละครอย่างพรหมลิขิต จะอยู่รอดได้อย่างไร ตรงนี้ต้องคิดต่อยอด โดยเฉพาะต้องให้มรดกล้ำค่านี้ยังอยู่ได้กับคนรุ่นใหม่ต่อไป อย่างไรอย่างยั่งยืน

คราวที่ผู้เขียนได้ร่วมทริปกับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด(มหาชน)นำคณะสื่อมวลชนไทยไปเยือนนครนานกิง  ได้ไปเยี่ยมชม “วัดต้าเป้าเอิน” นอกจากเป็นที่จัดพิมพ์ พระมหาปิฎกฉบับหย่งเล่อหนานจั้ง ในสมัยราชวงศ์หมิง ยังเป็นที่ตั้งของ เจดีย์กระเบื้องเคลือบแห่งนานกิง ซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ร่วมกับกำแพงเมืองจีน  ซึ่งเจดีย์แห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของจีนในช่วงเวลานั้น

แต่เดิมคนไม่รู้จักเพราะถูกทำลายไปในช่วงกบฏไท่ผิง จนกระทั่งในปี 2007 ทางการได้เริ่มต้นโครงการบูรณะวัด โดยการขุดค้นพบโบราณวัตถุล้ำค่ามากมายรวมถึงพระบรมสารีริกธาตุ ทำให้โครงการบูรณะขยายใหญ่ขึ้น ต่อมาในปี 2010 มหาเศรษฐีหวังเจี้ยนหลินบริจาคเงินกว่า 1 พันล้านหยวนเพื่อต่อทุน ซึ่งถือว่าเป็นการบริจาคแบบครั้งเดียวที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์จีนอีกด้วย

โครงการบูรณะขยายใหญ่จนกลายเป็นอนุสรณ์สถาน ที่ผสมผสานวัฒนธรรมเก่าแก่ล้ำค่ากับวัฒนธรรมสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ตั้งอยู่ ริมฝั่งแม่น้ำแยงซีเกียงในเมืองนานกิง ก่อสร้างด้วยเหล็กกล้าที่แข็งแกร่ง ติดกระจกทันสมัย มีทางเดินกระจกบนพื้นที่มองทะลุเห็นร่องรอยของการขุดค้นโบราณวัตถุ  ภายในมีการตกแต่งวิจิตร แสง สี เสียง วิดีทัศน์สอดแทรกความรู้เรื่องประวัติวัด จำลองการประสูติของพระพุทธเจ้า และสอดแทรกหลักคำสอนพระพุทธเจ้า สัจธรรม เกิด แก่ เจ็บ ตาย โดยนำเอาเทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาใช้ ผสมผสานกับสื่อ 3 มิติ ในระบบชมพิพิธภัณฑ์ เช่น QR Code ที่เราสามารถใช้สมาร์ทโฟนสแกนอ่านข้อมูลต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง เสมือนเข้าไปชมงานศิลปะใน Art Gallery

และแน่นอนว่า มีบริการให้เช่าชุดจีนโบราณ และถ่ายภาพเป็นที่ระลึก เหมือนกัน ยิ่งในยุคที่ทุกคนสามารถเป็น Content Creator จึงได้เห็นสาวสวยในชุดจีนโบราณเดินขวักไขว่ เหมือนเดินทางข้ามเวลา หากแต่ต่อยอดไปสู่อนาคต