25 ธันวาคมนี้ เป็นวันคริสต์มาส ซึ่งเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองของคริสตศาสนิกชน ตามความเชื่อที่ว่าในวันนี้ เป็นวันประสูติของพระเยซู และเป็นฤดูกาลแห่งการให้ ที่มีหลักฐานอ้างว่าวัฒนธรรมในการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสนั้น เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาทีเดียว โดยเริ่มเฉลิมฉลองกันตามโบสถ์คริสตศาสนา

ที่มาพร้อมหมอสอนศาสนา เช่นเดียวกับ ศิลปวิทยาการต่างๆ ในไทย และดูเหมือนจะผสมกลมกลืนกับคนไทยเป็นอย่างดี ด้วยวัฒนธรรมแห่งการให้ในวันคริสต์มาส ด้วยคนไทยพื้นฐานนั้นมีใจเมตตาเอื้อเฟื้อกรุณาต่อกัน

การรับเอาวัฒนธรรมอันดีงาม ที่จรรโลงจิตใจผู้คนนั้นมีส่วนเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคม การส่งมอบความรัก ความเอื้ออาทรต่อกัน ผ่านของขวัญ ของฝาก หรือกิจกรรมจิตอาสาต่างๆ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ดีงาม ที่ควรมีให้แก่กัน ไม่ว่าชาติหรือศาสนาใด

ที่ในสงครามโลกครั้งที่ 1 พ.ศ. 2457 ยังมีการพักรบคริสต์มาส โดยเป็นการหยุดยิงอย่างไม่เป็นทางการ ในแนรบต้านตะวันตก

ปัจจุบันบ้านเรานั้น การเฉลิมฉลองคริสต์มาสมีความหมายต่อเศรษฐกิจด้วย เนื่องจากเทศกาลคริสต์มาสนั้นเป็นงานรื่นเริง มีการประดับไฟต้นคริส์มาส สถานที่ต่างๆ ร้านรวง ห้างสรรพสินค้า สถานที่ท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้าไปใช่บริการและถ่ายภาพเช็คอิน 

การแต่งกายด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์ให้เข้ากับเทศกาล สีสันเขียวแดง และเครื่องประดับต่างๆ ถูกประดิษฐ์ขึ้นเพื่อรองรับการเฉลิมฉลอง ยิ่งในยุคดิจิทัลนั้นการทำเนื้อหาในสื่อสังคมออนไลน์ให้สอดรับกับเทศกาล เป็นที่นิยมอย่างมาก

และแน่นอนว่า ประเพณีการให้ “ของขวัญ” จากลุงซานตาครอส ที่เด็กๆรอคอยที่จะได้รับ ที่เดิมเป็นเพียงสัญลักษณ์ให้ระลึกถึงของขวัญสามชิ้นในวันประสูติของพระเยซู

แต่ความนิยมให้ของขวัญในวันคริสต์มาสกัน ไม่ใช่เฉพาะเด็กๆที่รอคอยจากซานตาครอส แต่ยังนิยมมอบให้กับผู้ใหญ่ คนรักและเพื่อน นำมาสู่การจับจ่ายใช้สอยในช่วงคริสต์มาส

ไทยเรากำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่การท่องเที่ยวนั้นเป็นเครื่องยนต์สำคัญ ที่ต้องขับเคลื่อนอย่างหนัก เทศกาลคริสต์มาสจึงมีความสำคัญ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจเช่นเดียวกับเทศกาลอื่นๆ

ขณะที่ความเคลื่อนไหวการเมือง วันคริสต์มาสปีนี้ ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนคดี ที่มีผู้ร้องพรรคก้าวไกลว่านำการแก้ไขมาตรา 112 มาเป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 หรือไม่ ที่คนในพรรคก้าวไกล และบรรดาผู้สนับสนุน กับขั้วตรงข้าม ต่างภาวนาถึงของขวัญของพวกเขา ในรูปแบบที่แตกต่างกัน