เมื่อพูดถึงภาวะซึมเศร้าและวิธีรับมือแล้ว  ก็ถือโอกาสค้นต่อเนื่องไปเป็นซีรีย์ ถึงวิธีการที่จะเยียวยาจิตใจจากภาวะซึมเศร้านี้ ที่อาจช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อย ขอให้ท่านผู้อ่านลองเปิดใจแม้ไม่ได้อยู่ในภาวะนี้ ก็ประดับไว้เผื่อเป็นแนวทางช่วยเหลือผู้คนรอบข้าง

โดยไปพบกับบทความที่ พระอธิการไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ ที่โพสต์ไว้ในเพจวัดป่าสุคะโต ธรรมชาติที่พักใจ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ในหัวข้อ “เยียวยาใจให้หายซึมเศร้า” จึงขอหยิบยกนำมาเผยแพร่ต่อดังนี้

“นอกจากปลูกต้นไม้ รดน้ำต้นไม้แล้ว เลี้ยงสัตว์ก็ดี หลายคนพอได้เลี้ยงสัตว์ เช่น เลี้ยงแมว เลี้ยงหมา มีน้องแมว น้องหมา ไม่นานอาการก็ดีขึ้นเลย เพราะว่าจะมานั่งเศร้าเจ่าจุกไม่ได้ ถึงเวลาก็ต้องให้อาหารแมว ถึงเวลาก็ต้องพาน้องหมาไปอาบน้ำ เวลาเศร้าๆ ก็มีน้องหมามาหา มาชวนเล่น ก็นั่งเศร้าต่อไปไม่ได้ ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับหมา คุยกับหมา เล่นกับหมา อาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ในอเมริกา มหาวิทยาลัยหลายแห่ง เขามีโครงการให้ยืมหมาไปเลี้ยงที่หอพัก เพราะนักศึกษาเป็นโรคซึมเศร้าเยอะ เด็กเรียนเก่งใช้ความคิดมาก แต่อารมณ์ไม่พัฒนา ก็มีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าได้

นักศึกษาในอเมริกาพอเอาหมาไปเลี้ยงก็มีอาการดีขึ้น โดยหมาที่ให้ยืมเป็นหมาที่เจ้าของฝึกมาอย่างดี เช่น ถูกฝึกมาให้รู้จักชวนคนเล่น คนเลยนั่งซึมเศร้าไม่ได้ พออาการดีขึ้นแล้วค่อยคืนหมาให้กับเจ้าของ เจ้าของก็เอาหมาไปช่วยผู้ป่วยคนต่อไป ที่จริงไม่ต้องยืมหมาแมวก็ได้ ให้หาหมาซักตัว หาแมวซักตัวมาเลี้ยง มีดาราบางคนติดเหล้าหนักจนอยากฆ่าตัวตาย รักษาเท่าไรๆ ก็ไม่หาย จนมีเพื่อนให้ลูกแมวมา เมื่อได้ลูกแมวมาก็ต้องดูแล ต้องให้นม หนาวก็ต้องหาผ้ามาห่ม เวลากินเหล้าเมามาย กลับบ้านดึกเห็นแมวหิวโซ ก็รู้ว่าทำอย่างเดิมไม่ได้แล้ว ต้องกลับบ้านเร็วขึ้น จะไปกินเหล้าจนดึกดื่นต่อไปไม่ได้แล้ว หรือว่าถ้ากินเหล้าเมามาย ลืมแมว ไม่ได้ให้อาหารแมว แมวก็หิวโซ ก็รู้ตัวว่าไม่ได้นะ ฉันต้องมีวินัยมากขึ้น กินเหล้าน้อยลง ในที่สุดก็มีความสุขกับการเลี้ยงแมว ชีวิตดีขึ้นจนกระทั่งเลิกเหล้าได้ กลับมาเป็นปกติเพราะน้องแมว หลายคนชีวิตเปลี่ยนแปลงไปเพราะต้องดูแลแมว เป็นห่วงแมว

เพราะฉะนั้นเวลาเรารู้จักใครที่เป็นโรคซึมเศร้า ลองชวนเขาทำกิจกรรมที่ใช้แรง ใช้กำลัง หรือกิจกรรมที่ทำให้จิตใจออกไปอยู่ข้างนอก มีสมาธิอยู่กับสิ่งข้างนอก อย่าเพิ่งคิดถึงเรื่องการทำสมาธิแบบนั่งหลับตา เดี๋ยวนี้เวลาพบว่าใครเป็นโรคซึมเศร้า ผู้คนก็คิดแต่จะชวนเขาเข้าวัดนั่งสมาธิ อันนี้อาจเกิดโทษได้ เพราะจะทำให้จิตยิ่งจมดิ่งไปในความคิดและอารมณ์ซึมเศร้ามากขึ้น อย่าคิดว่าการทำสมาธิด้วยการนั่งหลับตาจะเป็นคำตอบสำหรับทุกคน ที่จริงกิจกรรมที่แนะนำข้างบน มันเป็นการฝึกสติอย่างหนึ่ง แต่ว่าฝึกสติโดยไม่รู้ตัว เป็นการฝึกให้ใจอยู่กับสิ่งที่ทำ ไม่ว่าจะเป็นรดน้ำต้นไม้ ถักโครเชต์ วาดรูป ปั้นภาพแกะสลัก ทำให้จิตมีสติ เมื่อมีสมาธิกับสิ่งที่ทำ จิตใจก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ จนหายได้ มีหลายคนที่หายหรือบรรเทาลง เพราะได้ทำกิจกรรมเหล่านี้ แต่ก็ต้องมีคนดูแลหรือชักชวน เพราะถ้าไม่มีคนดูแลชักชวนเขาก็ไม่ทำหรอก เพราะเขาอยากนั่งเศร้าเจ่าจุกมากกว่า”