วันก่อนท่องไปในโซเชียล ได้พบเจอกับเรื่องราวที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง สำหรับคนทำงานและคนทุกวัย และชุมชน

โดยในเพจเฟซบุ๊ก “รวมธรรมะ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ป.อ.ปยุตโต”  ได้โพสต์ข้อความถึงการสนทนาธรรมเรื่อง  “สติ”  ผ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างดร.วิรไท สันติประภพ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กับ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตโต)  เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2566

โดยดร.วิรโท ได้โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ Veerathai Santiprabhob ความว่า  “เมื่อสองวันก่อนที่ได้ไปกราบสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์​ (ประยุทธ์ ปยุตโต) ที่ด่านช้างพร้อมกับคณะสวนโมกข์กรุงเทพ ได้กราบเรียนหลวงพ่อสมเด็จฯ เรื่องโครงการ “องค์กรรมณีย์” หรือ Mindfulness Organization ที่สวนโมกข์กรุงเทพเริ่มทำกับภาคีต่างๆ เพื่อลดความทุกข์ให้กับคนในที่ทำงาน

ถ้าเราสามารถทำให้ที่ทำงานเป็นองค์กรรมณีย์ได้ สังคมก็จะเข้าใกล้ความเป็นสังคมรมณีย์มากขึ้น เพราะความทุกข์ของคนส่วนใหญ่ในวันนี้มาจากที่ทำงาน

ได้กราบเรียนหลวงพ่อสมเด็จฯ ว่าแนวคิดเรื่อง Mindfulness Organization ได้รับความสนใจกันมากในโลกตะวันตก บริษัทขนาดใหญ่ของโลกหลายแห่งได้นำไปใช้ในองค์กร แต่องค์กรในประเทศไทยยังไม่ค่อยพูดถึงกันเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่เรามีหลัก Mindfulness หรือ “สติ” ของพระพุทธศาสนาเป็นแก่นอยู่แล้ว

“สติ” ในหลักของพระพุทธศาสนายังลึกซึ้งกว่าแนวคิดเรื่อง Mindfulness ในโลกตะวันตก เพราะสอนถึงการรักษาสติในชีวิตประจำวัน การใช้สติเพื่อเข้าใจธรรมชาติของชีวิต และการนำสติไปกำกับพฤติกรรมและแนวทางการดำเนินชีวิต เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเองและคนรอบข้างด้วย ไม่ได้เน้นเพียงแค่การฝึกสมาธิให้เกิดสติในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง เพื่อลดความเครียด หรือเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเท่านั้น

ไม่คิดว่ากลับจากด่านช้างมาสองวันแล้วจะได้ email จากพระครูสังฆวิจารณ์ที่อุปัฏฐากหลวงพ่อสมเด็จฯ อยู่ ว่าหลวงพ่อสมเด็จฯ ขอให้ส่งจดหมายฉบับนี้มาให้

ลองอ่านจดหมายฉบับนี้ดูนะครับ จะเห็นทั้งความเป็นปราชญ์ ความเป็นครู ความงดงาม และเมตตาของหลวงพ่อสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์เป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าสุขภาพของท่านจะไม่เอื้อให้ท่านทำงานมากเช่นเดิมแล้วก็ตาม

กราบนมัสการหลวงพ่อสมเด็จฯ ด้วยความเคารพยิ่งครับ

#ธรรมะพเนจร”

สำหรับเนื้อหาในจดหมายจาก สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ระบุว่า “เจริญพร ดร. วิรไท สันติประภพ

อาตมานึกถึงเรื่องเมื่อวานนี้ ได้เห็นว่า ดร.วิรไท สนใจเรื่องสติ ได้พูดถึงทางตะวันตกว่าเอาใจใส่ในเรื่อง mindfulness กันมาก แต่เมื่ออาตมาพูดวานนี้ อาตมาไม่ได้ยกเรื่องสติขึ้นมาย้ำเท่าที่ควร วันนี้นึกได้ จึงคิดว่น่าจะยกเอาพุทธพจน์เกี่ยวกับ "สติ" ที่เกี่ยวกับหลักธรรมที่พูดเมื่อวานนี้ มาบันทึกไว้ และขอส่งมาให้ ดร.วิรไท

พิจารณาประกอบหลักธรรมที่พูดเมื่อวานนี้ เฉพาะหลักที่เกี่ยวข้องโดยตรง เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อย ดังนี้

ขอเริ่มด้วยพุทธพจน์ที่ตรัสไว้กว้างๆ ว่า "สติญฺจ ขฺวาหํ ภิกฺขเว สพฺพตฺถิกํ วทามิ" แปลกันว่า "ภิกษุทั้งหลาย สตินี้แล เรากล่าวว่า ใช้ประโยชน์ได้ทั่วทุกอย่าง" คือใช้ในกิจทุกอย่าง, เป็นประโยชน์ในทุกกรณี...” (อ่านต่อฉบับหน้า)