เดือนมกราคมที่แสนยาวนานผ่านไปแล้ว เข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรัก เนื่องจากในเดือนนี้มีเทศกาลแห่งความรัก ทั้งวันแห่งความรักที่เป็นที่นิยมเฉลิมฉลองกันหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งไทย  คือ “วันวาเลนไทน์” ซึ่งตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี

โดยวันวาเลนไทน์หรือวันนักบุญวาเลนไทน์  เดิมเป็นเพียงวันฉลองนักบุญ ในศาสนาคริสต์ยุคแรกหนึ่งหรือสองคนชื่อวาเลนตินัส ความหมายโรแมนติกโดยนัยสมัยใหม่นั้นกวีเพิ่มเติมในอีกหลายศตวรรษต่อมาทั้งสิ้น มีการกำหนดวันวาเลนไทน์ขึ้นครั้งแรกโดยสมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสที่ 1 ใน ค.ศ. 496 ก่อนที่สมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 6 จะให้ตัดออกจากปฏิทินโรมันทั่วไป (General Roman Calendar) ในปี ค.ศ. 1969

วันวาเลนไทน์มาข้องเกี่ยวกับรักแบบโรแมนติกเป็นครั้งแรกในแวดวงสังคมของเจฟฟรีย์ ชอเซอร์ สมัยกลางยุครุ่งโรจน์ (High Middle Ages) เมื่อประเพณีรักเทิดทูน (courtly love) เฟื่องฟู จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 15 วันวาเลนไทน์ได้วิวัฒนา มาเป็นโอกาสซึ่งคู่รักจะแสดงความรักของพวกเขาแก่กันโดยให้ดอกไม้ ขนมหรือลูกกวาด และส่งการ์ดอวยพรกัน ในภายหลังประเพณีการแสดงออกความรักไม่ได้เป็นที่นิยมเพียงแค่ทางฝั่งตะวันตกหากแต่มีการแพร่กระจายความนิยมไปทั่วโลก โดยคนส่วนใหญ่ถือว่าวันดังกล่าวเป็นวันแห่งการแสดงความรักให้กันจนถึงปัจจุบัน โดยบางประเทศมีการฉลองในลักษณะที่คล้ายกันนี้ เช่น ประเทศบราซิลมีการเฉลิมฉลอง "Dia dos Namorados" ในวันที่ 12 มิถุนายน โดยจะมีการมอบของขวัญให้คนที่รัก เช่น ดอกไม้และช็อกโกแลต

ขณะที่อีกด้านหนึ่งเดือนกุมภาพันธ์ ปีนี้ ยังมี “วันมาฆบูชา” ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ที่เป็นวันที่แสดงความรักอันบริสุทธิ์ โดยมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นพร้อมกันเป็นที่อัศจรรย์  4 ประการ หรือที่เรียกว่า “จาตุรงคสันนิบาต” คือ

หนึ่ง มีการชุมนมกันของพระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า จำนวน 1,250 รูป โดยไม่ได้นัดหมาย ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่พระพุทธองค์ส่งไปเผยแผ่พระพุทธศาสนายังแว่นแคว้นต่างๆ ได้กลับมาเฝ้าโดยพร้อมเพรียงกัน

สอง  พระสงฆ์ทั้งหมดล้วนเป็นเอหิภิกขุที่พระพุทธเจ้าทรงบวชให้ด้วยพระองค์เองทั้งสิ้น ซึ่งเรียกว่า เอหิภิกขุอุปสัมปทา

สาม พระสงฆ์ทั้งหมดล้วนเป็นพระอรหันต์ คือผู้ได้อภิญญา 6 ข้อ

และสี่ วันที่พระสงฆ์ทั้งหมดมาชุมนุมนี้ตรงกับวันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 3 หรือเดือนมาฆะ

และในปี พ.ศ. 2549 รัฐบาลไทยประกาศให้วันมาฆบูชา เป็นวันกตัญญูแห่งชาติ เพื่อส่งเสริมให้คนไทยยึดความกตัญญู ทั้งต่อสถาบันครอบครัว สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

เดือนแห่งความรักนี้ จึงขอให้ความรัดอันบบริสุทธิ์ที่มอบให้แก่กันไม่ว่าจะตามหลักพระพุทธศาสนาและคริสตศาสนา และไม่ว่าศาสนาหรือความเชื่อใด หากมีพื้นฐานจากความรักแล้วย่อมก้าวพ้นปัญหาและความขัดแย้งทั้งปวงได้