กว่าจะถึงวันอภิปรายทั่วไป โดยไม่มีการลงมติ ตามมาตรา 152 ที่จะเปิดฉากวันนี้ 3 เม.ย.67 ปรากฏว่า  ข่าวลือ ลอยลม มาเบรกความร้อนแรง และยังกลายเป็นการดิสเครดิต ประชาธิปัตย์ พรรคฝ่ายค้านเข้าอย่างจัง 
 
เมื่อข่าวลือที่ว่านั้นพุ่งเป้าไปที่การปรับครม. โดยจะมีการดึงพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วม หากเรื่องนี้ เกิดขึ้นในภาวะปกติ คงไม่กระทบกับประชาธิปัตย์ เพราะเป็นช่วงก่อนทำศึกซักฟอก รัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาล
 
ท้ายที่สุดแล้ว ข่าวนี้กลายเป็น ข่าวลือ ที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง  ยืนยันว่า ถ้าเป็นข่าวลือ ก็ให้จบลงที่ข่าวลือ  เช่นเดียวกับ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ในฐานะมือทำงานสายตรง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ บอกกับสื่อในทิศทางที่ไม่ต่างกัน นั่นคือไม่ใช่เรื่องจริง 
 
ไม่เพียงแต่นายกฯและแกนนำในพรรคเพื่อไทย เท่านั้นที่ไม่ได้น้ำหนักไปที่การปรับครม.  เพราะหลายคนรู้ดีว่า สัญญาณที่แท้จริงจะต้องถูกส่งมาจาก บ้านจันทร์ส่องหล้า เท่านั้น 
 
และนอกจากรัฐบาลจะตีตกข่าวลือเรื่องการปรับครม.แล้ว ยังปรากฏสัญญาณ รุก ในเชิง บุก ด้วยการประกาศแผนผลักดันภารกิจต่างๆ โดยเฉพาะการพิจารณาวาระอันมีผลกระทบต่อประชาชน ทั้งการที่นายกฯระบุว่า ให้รอความชัดเจนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ในวันที่ 10 เม.ย.นี้ เพราะทุกอย่างจะชัดเจน โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง ที่มาของเงิน ที่จะนำมาใช้ในโครงการ 

 รวมถึง กรณีกระทรวงแรงงานมีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำในภาพอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในพื้นที่ 10 จังหวัด  ซึ่งเรื่องนี้นายกฯระบุว่า ต้องมีการประชุมต่อเนื่องเพื่อดูว่า จะสนับสนุนธุรกิจประเภทไทย เขตไหนและอำเภอใด  แต่ต้องยอมรับว่าการขยับในเรื่องของปรับค่าจ้างขั้นต่ำในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 10 จังหวัดนั้น น่าจะทำให้ได้รับการขานรับ 

 ขณะที่พรรคฝ่ายค้านเอง กำลังถูกจับตาว่าในศึกอภิปราย 2 วันนี้จะทำกันอย่างเต็มที่ โดยไม่มี การเกี้ยเซียะกันหรือไม่ ปรากฏว่าในปีกรัฐบาลเอง กำลังพบว่า ต่างเร่ง ปั้นผลงาน ทั้งในพรรคเพื่อไทยเอง ไปจนถึงพรรคร่วมรัฐบาล  เพราะต่างรู้ดีว่า การจะปรับครม. หรือไม่ ที่สุดแล้ว แม้จะเป็นอำนาจของ นายกฯเศรษฐา แต่ย่อมไม่ได้เกิดขึ้นในเร็วนี้ จนกว่าเจ้าของบ้านจันทร์ส่องหล้า จะมั่นใจในสถานการณ์ได้ว่า ปรับแล้วจะได้อะไร และ เมื่อปรับแล้ว จะต้องไม่กระทบ พรรคร่วมรัฐบาล  !