รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์

ที่ปรึกษาสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

2 เหตุการณ์เด่น เดือนเมษายน 2567 ที่คนไทยต้องจับตา เพราะส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่!!!

เหตุการณ์ที่ 1 รายงานอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาเมื่อวันที่ 08 เม.ย. 67 ที่ผ่านมา ระบุว่าทั่วประเทศร้อนจัด อุณหภูมิเดือดทะลุ 43°C  และในช่วงก่อนเข้าเทศกาลสงกรานต์อุณหภูมิอาจพุ่งสูงแตะ 44°C สอดคล้องกับเมื่อกลางปีที่แล้ว นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ประกาศว่า โลกสิ้นสุด “ยุคโลกร้อน” (Global Warming) และกำลังเข้าสู่ “ยุคโลกเดือด” (Global Boiling) สาเหตุหลักของโลกเดือดก็มาจากน้ำมือมนุษย์นี่แหละ...ที่ทำกิจกรรมปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มมากขึ้น 

ผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่อง พบว่าตั้งแต่ปี 2558–2565 เป็นห้วงเวลาที่โลกมีอุณหภูมิเฉลี่ย
ร้อนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และภูมิภาคเอเชียมีอุณหภูมิเฉลี่ยในปี 2565 สูงกว่าค่าเฉลี่ย 30 ปีย้อนหลัง ทั้งนี้ข้อมูลของทีมวิจัย Jet Propulsion Laboratory แห่งองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือองค์การนาซา (NASA - National Aeronautics and Space Administration) ระบุว่าภายใต้ข้อมูลอุณหภูมิโลกที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน นำไปสู่การเก็บรวบรวมข้อมูลและประเมินระดับอุณหภูมิที่อาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ โดยพบว่าหากระดับความชื้นสูงพอ และมนุษย์อาศัยอยู่ในระดับอุณหภูมิ 35°C ก็อาจทำอันตรายต่อสุขภาพและนำไปสู่กการเสียชีวิตได้

ด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) คาดการณ์ว่าภายในปี ค.ศ. 2080 (พ.ศ. 2623) หรือในอีก 56 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุเสียชีวิตจากความร้อนในอัตรา 58 ต่อแสนประชากร หรือ 14,000 คน สำหรับข้อแนะนำในการดูแลสุขภาพในสภาวะอุณหภูมิเดือด ๆ เช่น คอยหมั่นติดตามสภาพอากาศ หากอากาศร้อนขึ้นควรดื่มน้ำสะอาดบ่อย ๆ สวมเสื้อผ้าสีอ่อนที่ระบายอากาศดี กรณีจำเป็นต้องทำกิจกรรมภายนอกอาคาร ควรสวมเสื้อแขนยาว หมวกปีกกว้าง แว่นตากันแดด และทาครีมกันแดด และควรงดดื่มสุรา น้ำหวาน น้ำอัดลม ส่วนการปกป้องโลกไม่ให้เดือดมากไปกว่านี้หรือเดือดแรงและเร็วขึ้นไปอีก อาทิ ช่วยกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการใช้พลาสติก ลดการเผาที่ปล่อยมลพิษทางอากาศ ลดการใช้พลังงาน ลดขยะในครัวเรือน และเลือกใช้พลังงานสะอาดหรือพลังงานหมุนเวียนทดแทน ฯลฯ

เหตุการณ์ที่ 2 สิ้นเดือนมีนาคม 2567 รัฐบาลเศรษฐา 1 บริหารประเทศครบ 6 เดือน 19 วัน ซึ่งสถิติการบริหารราชการแผ่นดิน แบบ “ทักษิณ” ที่ผ่านมานั้น เฉลี่ยทุก 6 เดือน จะมีการปรับ ครม. ทำให้หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทางการเมือง ประเมินว่าเดือนเมษายน 2567 นี้ เป็นห้วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการปรับ ครม.

ก่อนหน้านี้ช่วงต้นเดือนมีนาคม นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ควบ 2 ตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ก็ออกมาให้สัมภาษณ์เป็นคนแรก ๆ ว่า “การปรับ ครม. จะชัดเจนเมื่อสภาผ่านความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2567 และการปรับ ครม. เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีที่จะพิจารณาตามความเหมาะสม หากนายกฯ เห็นสมควรจะปรับ” ซึ่งตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ ก็คาดว่าจะปรับโยกคนอื่นมานั่งแทนด้วย

กระแสข่าวจากทำเนียบรัฐบาลระบุว่า การปรับ ครม. นายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งควบตำแหน่งนายกฯ และรมว.คลัง คือการสละเก้าอี้รมว.คลัง โดย นายพิชัย ชุณหวชิร ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะเข้ามาดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง ส่วน
นายเศรษฐาจะโยกไปควบเก้าอี้ รมว.กลาโหม รูปแบบการปรับ ครม. ของพรรคเพื่อไทยใช้วิธี “สลับกระทรวง” แต่จะสลับตัว “นายกฯ” หรือไม่คงต้องจับตาดูกัน ยิ่งอดีต “นายกฯแม้ว” ออกโรงการันตี “อุ๊งอิ๊ง” หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนปัจจุบันว่าเป็นส่วนผสมที่
กลมกล่อมจาก DNA เด่นของทั้งพ่อและแม่ ดูจะเป็นการกรุยทางที่ชัดยิ่งกว่าชัด แต่ไม่น่าจะห้วงเวลานี้หรือเปล่า???

การปรับ ครม. ย่อมต้องมีคนหลุดเก้าอี้ และมีคนใหม่เข้ามาเสียบแทน เหตุผลยอดนิยมที่หยิบมาใช้กล่าวอ้างสำหรับการปรับ
เอาคนเก่าออกและเอาคนใหม่มาลงแทนก็ไม่พ้น “ไร้ผลงาน” แต่การปรับ ครม. คราวนี้ของรัฐบาลเศรษฐา 1 คงต้อง
จับความเคลื่อนไหวกันรัว ๆ ก็เรื่องดึงเอาฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มาร่วม “แจม” ด้วยนี่แหละครับ เหตุผลก็เพื่อเสริมความเข้มแข็ง แต่ในวันอภิปรายทั่วไป “รัฐบาลเศรษฐา”แบบไม่ลงมติ นายกฯเศรษฐากลับสับ ๆ ปชป. แบบเดือดพล่านจนบางคนมองว่าผิดธรรมเนียมปฏิบัติทางการเมือง ลากอุณหภูมิการเมืองเดือดร้อนแรงไม่แพ้กับอากาศเดือนนี้ เผลอ ๆ จะเดือดกว่าเสียด้วย!

อย่างไรก็ตาม หวังว่าการปรับ ครม. “เศรษฐา 2” ทั้งเปลี่ยนคนเก่า ดันคนใหม่ ดูดพรรคฝ่ายค้านเข้าร่วม จะเป็นการเสริมทัพรัฐบาลให้ทำงานเข้าตาประชาชนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะนโยบายเรือธง “ดิจิทัลวอลเล็ต 10K” ถ้าทำสำเร็จจริงก็ “Rebirth” ฟื้นคืนสังเวียนกันยาว แต่ถ้าตรงข้ามก็จบฝังกลบโบกซีเมนต์กันยาวเช่นกัน ห้วงเวลานี้คนไทยต้องมอนิเตอร์ทั้งอุณหภูมิอากาศและอุณหภูมิการเมืองล่ะครับ อะไรเดือดกว่ากันช่วยบอกหน่อยครับ...