ปัญหาราคาผลิตเกษตรกรรมปฐมภูมิ เช่น ข้าวเปลือก , หัวมันสำปะหลัง , ยางพารา ราคาตกต่ำเป็นปัญหาระดับชาติที่โยงใยกับปัญหาเศรษฐกิจระดับโลก เป็นหาที่หนักหน่วง แต่ในขณะนี้มวลชนมีความตื่นตัวรับรู้ปัญหาของชาวนา และมีความเคลื่อนไหวช่วยกันผ่อนเบาปัญหานี้ นี่เป็นเรื่องดี ควรใช้วิกฤติให้เป็นโอกาส ปลุกระดมทำการปฏิรูป ทั้งด้านชาวนาและด้านมวลชนผู้บริโภค และแนวคิดของหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง จะสามารถวางระบบใหม่ แก้ไขทุเลาปัญหาเรื่องราคาสินค้าเกษตรปฐมภูมิได้ การแก้ปัญหาระดับชาตินั้น จะอาศัยกำลังนักการเมืองและหน่วยงานรัฐแต่เพียงฝ่ายเดียว สำเร็จได้ยาก หรือแทบจะยืนยันได้ว่าไม่มีทางสำเร็จไม่ต้องมองถึงระดับเรื่องใหญ่ยิ่งอย่าง “การปฏิรูปประเทศ” ก็ได้ เอาแค่เรื่องระดับเล็ก เช่น ปัญหา “ขยะในชุมชน” ปัญหา “พิษภัยจากพืชและสัตว์พันธุ์ต่างถิ่น” ฯลฯ ก็จำเป็นต้องปลุกพลังมวลชนให้ตื่นตัว ลุกขึ้นมาช่วยกันแก้ไขคนละไม้คนละมือ ไม่อย่างนั้นก็จะต้องผจญกับปัญหานั้นรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับเรื่อง “ปฏิรูปประเทศ” นั้นมันใหญ่โตจนดูน่าท้อแท้ แต่ถ้าเรามาพิจารณาหาทางแก้ปัญหาระดับรอง ๆ ลงมา เราอาจจะพบวิถีทางแก้ปัญหาก็ได้ ขอยกตัวอย่างปัญหาที่มวลชนจำนวนมากเผชิญอยู่ทั่วไป แต่ระดับความตระหนักรู้ถึงความรุนแรงของปัญหาอาจจะยังไม่มาก เช่นปัญหาพันธุ์พืชพันธุ์สัตว์ต่างถิ่นที่เข้ามาทำลายสภาพแวดล้อมธรรมชาติในประเทศไทย จะขอเรียกง่ายว่าพวก “เอเลียน” การนำเอาพืชและสัตว์ต่างถิ่นเข้ามาแพร่พันธุ์ในประเทศไทยทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ ได้สร้างทั้งคุณประโยชน์และโทษภัยให้กับคนไทยมาก สำหรับคุณประโยชน์นั้น พืชสัตว์หลาย ๆ ชนิดที่นำเข้ามาแพร่พันธุ์ มีคุณค่าอย่างมากมาย เช่น ต้นยางพารา พันธุ์โคนม พันธุ์ปลานิล ฯลฯ ต่อเรื่องนี้เราต้องยกย่องคารวะผู้มีส่วนสร้างสรรค์ สำหรับด้านโทษภัยนั้น ส่วนใหญ่เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ความไม่รอบคอบ ส่วนน้อยเกิดจากความมักมากเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน จนละเลยไม่คำนึงถึงผลด้านลบที่จะเกิดตามมา กรณีหลังนี้ยังคงเกิดขึ้นอยู่ในวงการขายสัตว์เลี้ยงแปลกประหลาดหายาก ที่นำเข้าจากต่างประเทศ เมื่อไล่ดูพันธุ์พืชและสัตว์ “เอเลียน” ที่สร้างพิษภัยร้ายแรงแก่ตนไทย ก็มี ผักตบชวา หญ้าขจรจบหรือหญ้าคอมมิวนิสต์ ไมยราพยักษ์ หอยเชอรี่ ปลาซัคเกอร์หรือปลาเทศบาล เป็นต้น นี่เป็นพันธุ์ที่คนไทยรับรู้ปัญหากันดีอยู่แล้ว การจัดการกับพืชสัตว์เอเลียนเหล่านี้ ลำพังรอคอยให้หน่วยงานราชการจัดการแก้ปัญหา ไม่มีทางสำเร็จ รัฐต้องกลุกระดมให้ชาวบ้านทั่วไปตื่นตัว ร่วมกันกำจัดมันคนละไม้คนละมือ จัดการปราบมันอย่างต่อเนื่อง ทุกคนต้องเสียสละกันบ้าง อย่าเอาแต่ “ปัดสวะ” ให้พ้นหน้าบ้าน ปล่อยให้มันลอยไปติดบ้านอื่น ไปอุดตันตรงประตูน้ำหรือเขื่อน ต้องใช้เครื่องจักรกลไปทำลาย เสียหายเงินกันเป็นล้าน ทำกันมากี่ปี ๆ ก็ไม่จบปัญหา หรือว่ามันเป็นปัญหาโลกแตก.........ไม่มีหนทางแก้ได้ เปล่าเลย ทุกปัญหาแก้ได้ ถ้าคนเราใช้พลังร่วมกัน รับผิดชอบร่วมกัน ทำทุกคน ใครมีกำลังมากทำมาก คนมีกำลังน้อยทำน้อย แต่ต้องทำร่วมกัน