"รัฐธรรมนูญปกครองประเทศนั้น  ต้องถูกกับกาลสมัยและน้ำใจคน  ยิ่งเปลี่ยนได้มากเท่าไรยิ่งดี  รัฐธรรมนูญที่ตายตัว  ดิ้นไม่ได้นั้นเสียอีก  กลับจะเป็นของไม่ดี  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเมืองไทย  ซึ่งยังใหม่ต่อระบอบนี้อยู่มาก" ( คึกฤทธิ์ ปราโมช “รู้ไว้ใช่ว่า” หน้า 46) คุณภาพของประชาธิปไตยมิได้ขึ้นอยู่กับรัฐธรรมนูญเป็นหลัก   ถ้าใจคนไทย(แม้แต่ที่นั่งในสภาฯ)ยังไม่เป็นประชาธิปไตยจริงเสียแล้ว  รัฐธรรมนูญจะไปช่วยอะไรได้ อ้างคำ "คึกฤทธิ์ ปราโมช" ก็ว่า "ที่เรียกร้องต่อสู้กันมาให้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญโดยเร็วนั้น  ก็เพราะความประสงค์ที่จะให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยโดยเร็ว    แต่ตามความเห็นของผม  สักแต่รัฐธรรมนูญฉบับเดียวจะทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยไปโดยฉับพลันทันทีนั้น  เห็นจะไม่ได้ จะต้องสร้างต้องทำอะไรกันที่อื่นอีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในใจคนทั้งปวง  เพราะถ้าใจคนยังไม่เป็นประชาธิปไตยเสียแล้ว  รัฐธรรมนูญกี่ร้อยฉบับก็จะไม่ทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยขึ้นมาได้" (ประชาธิปไตยของชาวบ้าน  หน้า 92-93)    เมื่อยกเรื่องรัฐธรรมนูญมาว่ากันแล้ว  ก็เห็นจะต้องอ้างอิงต่อ ๆ ไปอีก ท่านแสดงความเห็นไว้ต่อไปว่า           "รัฐธรรมนูญนั้น  นอกจากจะให้สิทธิแก่คนแล้ว  ก็ยังกำหนดหน้าที่ของคนอีกด้วย           รัฐธรรมนูญให้เสรีภาพแก่คนไทย   ในขณะเดียวกันก็คุ่มครองเสรีภาพของคน  มิให้คนอื่นมาขัดขวางหรือทำลายได้  และรัฐธรรมนูญจะประกันความเสมอภาคในโอกาสและในกฎหมาย  ซึ่งเป็นความเสมอภาคที่สำคัญที่สุด" (ประชาธิปไตยของชาวบ้าน หน้า 95)           ตอนนี้ที่เราเห็นออกมาถกเถียงแสดงภูมิรู้กันอยู่  ไม่ได้พูดถึงประเด็นเหล่านี้เลย    และบ้านเมืองนี้ก็ไม่ค่อยจะเห็นความเสมอภาคในโอกาสและในกฎหมายอย่างแท้จริงเลย          "รัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตยจะไม่สามารถแก้ปัญหาของแพง  ปัญหาโจรผู้ร้ายชุกชุม  ปัญหาคอร์รัปชั่น และอื่น ๆ ได้  หากใครนึกว่า  พอประกาศใช้รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยแล้ว  ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเอง  คนนั้นก็ต้องผิดหวัง           แต่การมีรัฐธรรมนูญที่มีผู้ปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด  เพราะทุกคนมีจิตใจเป็นประชาธิปไตยนั้น  จะเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเหล่านั้น    ตามหน้าที่และภูมิปัญญาความคิดตน  และจะทำให้เราได้มาซึ่งรัฐบาลซึ่งจะมีความเดือดร้อนในปัญหาเหล่านี้เท่ากับคนทั่วไปที่เดือดร้อน" (ประชาธิปไตยของชาวบ้าน หน้า 95)         อ่านตรงนี้แล้วก็เข้าใจว่า รัฐธรรมนูญนั้นเป็นเพียงหลักการที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองและชองพลเมืองได้ตามหน้าที่และภูมิปัญญาความคิดของตน ที่สำคัญคือควรจะทำให้ได้รัฐบาลที่เดือดร้อนกับปัญหาของประชาชนจริงๆ มิใช่มีรัฐบาลที่สนใจแต่ความอยู่รอด(ความมั่นคง)ของตัวเอง และผลประโยชน์ของพวกตน ไม่ใส่ใจกับความเดือดร้อนที่ประชาชนกำลังประสบอยู่           การมีหรือไม่มีรัฐธรรมนูญ  จึงไม่ใช่ตัวปัญหาในระบอบประชาธิปไตย           ปัญหาสำคัญอยู่ที่ว่าสมาชิกในสังคมคือพลเมืองไทยที่มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งนั้น  มีจิตใจเป็นประชาธิปไตยกันจริงแท้แค่ไหน           "หากมีรัฐธรรมนูญแล้ว  และเป็นประชาธิปไตยแล้ว  ทุกคนวางมือ  เพราะนึกว่าดีแล้ว ไม่ต้องทำอะไรอีกแล้ว  รัฐบาลของประชาชนที่เดือดร้อนกับประชาชน  ก็จะไม่เกิดขึ้นได้   เราอาจจะได้คนที่ฉวยโอกาสจากประชาธิปไตยเข้ามาเป็นรัฐบาลเพื่อประโยชน์อื่น    ปัญหาต่าง ๆ ก็คงจะมีต่อไป      แล้วเราเองก็จะเหนื่อยหน่ายต่อระบอบประชาธิปไตย  ปล่อยคนอื่นเข้ามาปกครองเอาตามใจ  โดยนึกว่าเขาเป็นอัศวินม้าขาวบ้าง  หรือผู้วิเศษในทางปัญญาความรู้บ้าง             การทั้งปวงก็จะกลับไปเหมือนแต่ก่อนอีก"   ( ประชาธิปไตยของชาวบ้านหน้า 96-97)