สำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครปฐม อุดหนุนงบจ่ายขาดเฉียดล้าน จัดซื้อแผ่นยางพาราปูพื้นคอกโคนมสหกรณ์โคนมนครปฐม จำกัด สร้างเสริมสุขภาพโคนมที่ดี พัฒนาศักยภาพการเลี้ยงโคนมสู่มาตรฐานฟาร์ม GAP พร้อมส่งเสริมการใช้ยางพาราภายในประเทศ นายประสาร อันโนนจารย์ สหกรณ์จังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า อาชีพโคนม เป็นอาชีพพระราชทานที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช ทรงริเริ่มและส่งเสริมให้พสกนิกรได้มีอาชีพที่ยั่งยืน เลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ โดยปัจจุบันมีเกษตรกรเลี้ยงโคนม 18,341 ครอบครัว ในพื้นที่ 35 จังหวัดของประเทศไทย มีแม่โคนมทั้งหมด 596,747 ตัว เป็นแม่โคพร้อมรีดนม 272,635 ตัว มีปริมาณน้ำนมดิบเฉลี่ย 3,102.76 ตันต่อวัน และเป็นเกษตรกรที่เลี้ยงโคนมอยู่ในสังกัดสหกรณ์ หรือกลุ่มเกษตรกร จำนวน 102 แห่ง หรือคิดเป็นร้อยละ 62.79 ของปริมาณน้ำนมดิบทั้งประเทศ ซึ่งแนวโน้มปริมาณน้ำนมดิบของเกษตรกรประเทศไทย ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา ไม่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นเท่าที่ควร เนื่องจากปัญหาหลายประการ ที่สำคัญคือต้นทุนการเลี้ยงโคนมของเกษตรกรเพิ่มขึ้น ไม่สอดคล้องกับรายได้จากการจำหน่ายน้ำนมดิบของเกษตรกรโคนม แต่ปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้เกษตรกรโคนมมีรายได้เพิ่มขึ้น คือ การบริหารจัดการสุขภาพโคนมในระยะให้นม และแม่โคแห้งนม สหกรณ์จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า ทั้งนี้ จากผลการวิจัยสำนักกองทุนสนับสนุนวิจัย ปี 2551 พบว่า โคนม ทั้งโคนมในระยะการให้นม หรือแม่โคแห้งนม มีพฤติกรรมที่ต้องการพื้นคอกที่มีความนุ่ม ซึ่งแม่โคส่วนใหญ่หลังกินอาหารจะชอบยืน นั่ง หรือนอนบนพื้นยางที่มีความนุ่มมากกว่าพื้นคอนกรีตที่มีความแข็งแรง เนื่องจากทำให้แม่โคนมรู้สึกสบาย โดยเฉพาะบริเวณเข่า และขา หรือเท้าทั้งสี่ข้างที่เกิดจากการนอน และการลุกขึ้นบนพื้นยางที่มีความนุ่ม อันจะส่งผลดีต่อสรีระร่างกายสัตว์ ตามหลักการสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) คือ ส่งผลให้สัตว์มีสุขภาพดี ซึ่งพื้นยางที่ปูคอกจะทำให้โคนมอยู่ในโรงเรือนอย่างสุขสบาย ทำให้แม่โคนมมีปริมาณการกินอาหารได้เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อไปยังอัตราการเจริญเติบโต และผลผลิตน้ำนมดิบของแม่โคนมที่เลี้ยงบนพื้นยาง จะสูงกว่ากลุ่มที่เลี้ยงบนพื้นคอนกรีต โดยแม่โคนมในกลุ่มที่เลี้ยงบนพื้นยาง สามารถกินอาหารได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 และผลผลิตน้ำนมดิบของแม่โคนมเพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.58 ทำให้เกษตรกรโคนมมีรายได้จากการจำหน่ายน้ำนมดิบเพิ่มขึ้นวันละ 5.93 เปอร์เซ็นต์ นายประสาร กล่าวเพิ่มเติมว่า ดังนั้น กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้จัดโครงการส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐ ประจำปี 2559 (การจัดหาแผ่นยางพาราปูคอกโคนม) โดยอุดหนุนเงินจ่ายขาด เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนจัดหาแผ่นยางพาราปูพื้นคอกโคนมให้กับสหกรณ์ที่รวบรวม หรือแปรรูปน้ำนมโค จำนวน 20 แห่ง วงเงิน 19,831,500 บาท โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครปฐม คัดเลือกสหกรณ์โคนมนครปฐม จำกัด เข้าร่วมโครงการฯ ได้รับการจัดสรรงบประมาณ 991,575 บาท และสหกรณ์ฯ สมทบเพิ่ม 100,425 บาท เป็นทุนในการจัดหาซื้อแผ่นยางพาราปูพื้นคอกโคนม เพื่อพัฒนาศักยภาพการเลี้ยงโคนมของสหกรณ์ฯ สู่มาตรฐานฟาร์ม GAP ส่งเสริมสุขภาพโคนมที่ดี เพื่อผลิตน้ำนมที่มีคุณภาพ “อย่างไรก็ดี หากวัดมูลค่าทางเศรษฐกิจ โคนมเมื่อเจ็บกีบ การกินได้จะลดลง ส่งผลให้ปริมาณน้ำนมลดลง 20 เปอร์เซ็นต์ หากแม่โคให้นม 15 กก./ตัว/วัน ปริมาณน้ำนมจะลดไป 3 กก./ตัว/วัน ซึ่งราคารับซื้ออยู่ที่ 17.50 บาท/กก.ก็จะสูญเสียรายได้ 52.50 บาท/ตัว/วัน และสามารถลดค่าใช้จ่ายในการรักษาโคเจ็บกีบ โดยปกติอัตราค่ารักษารวมค่ายาข้างละประมาณ 1,000 บาท ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว นอกจากเป็นการพัฒนาศักยภาพการเลี้ยงโคนมของสหกรณ์ เกษตรกรยังเข้าใจถึงประโยชน์การใช้แผ่นยางพาราปูพื้นคอกโคนม ลดการใช้ยาปฏีชีวนะของเกษตรกร ในแม่โครีดนมและแม่โคแห้งนม รวมทั้งสร้างความมั่นคงเข้มแข็งให้กับสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกร พร้อมพัฒนาฟาร์มสมาชิกของสหกรณ์ให้เข้าสู่มาตรฐานฟาร์ม GAP เพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC อีกด้วย” นายประสาร กล่าว