“กลาโหม” แจง พรรคเล็ก โยนไอเดียปรองดอง จำแยกโครงสร้างระบบการเมือง 5 กลุ่ม ต้นตอความขัดแย้ง ชี้ควรปฏิรูปการเมืองก่อน เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่22 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงกลาโหม พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะโฆษกในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองในชุดคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง แถลงข่าวภายหลังพรรคการเมืองขนาดเล็ก ประกอบด้วย พรรคประชาสามัคคี พรรคประชาธรรม พรรคประชาธิปไตยประชาชน พรรคปฏิรูปไท พรรคคนกีฬา และพรรคเพื่อชีวิต เข้าเสนอแนะแนวทางการปรองดอง เมื่อวันที่20-21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ว่า ทางตัวแทนพรรคการเมืองขนาดเล็ก สะท้อนมุมมองโครงสร้างระบบการเมืองว่า การไม่เคารพสิทธิ์ กฎหมาย และทุจริตคอรัปชั่น คือปัญหาความขัดแย้ง อีกทั้งมองโครงสร้างการเมืองเชิงระบบแบ่งเป็น 5 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มการเมืองเก่า กลุ่มการเมืองใหม่ กลุ่มประชาชน องค์กรอิสระ และกลุ่มผู้สนับสนุนทุนการเมือง โดยกลุ่มประชาชนมีพื้นฐานความเหลื่อมล้ำทางสังคม ขาดโอกาสการศึกษา การเข้าถึงสาธารณสุข การเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติ ที่ดิน และการเข้าถึงแหล่งทุน พล.ตงคงชีพ กล่าวต่อว่า สำหรับกลุ่มการเมืองเก่าใหม่ และกลุ่มการเมืองใหม่นั้น การสูญเสียประโยชน์ของกลุ่มการเมืองเก่า และการได้ประโยชน์ของกลุ่มการเมืองใหม่ เป็นรอยต่อความขัดแย้ง เนื่องจากกลุ่มการเมืองใหม่ต้องการรวบรัดอำนาจ เลยเกิดปัญหาตามมา ทั้งการใช้กลไกกฎหมาย แทรกแซงองค์กรอิสระ เกิดการทุจริตคอรัปชั่นทั้ง2 ฝ่าย ท้ายที่สุดก็ไม่ยอมรับกติกาต่อกัน พร้อมทั้งมองว่าองค์กรอิสระว่าถูกแทรกแซง ไม่วางตนเป็นกลาง ขาดความน่าเชื่อถือ ไม่มีความเป็นธรรม มีความสองมาตรฐาน จนทำให้องค์กรอิสระภายใต้รัฐธรรมนูญไม่ได้รับการยอมรับจากคนในสังคม ขณะเดียวกันกลุ่มทุนที่สนับสนุนการเมืองเองทั้ง 2 ฝ่ายก็ต้องการโอกาสธุรกิจ เกิดเป็นกลุ่มทุนใหญ่ขึ้นมา สร้างความเหลื่อมล้ำทางธุรกิจ ทำให้แข่งอย่างไม่เท่าเทียมกัน "ในการหารือทุกพรรคเห็นตรงกันว่าการปฏิรูปต้องทำพร้อมๆกันทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย โดยมองว่าการเมืองต้องปฏิรูปก่อน ระบบการเมืองไม่มีปัญหา แต่มีปัญหาที่อยู่ที่ตัวบุคคล ดังนั้นพรรคการเมืองจำเป็นต้องคัดคนมีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือมาให้ประชาชนเลือก ไม่ทำการเมืองเชิงธุรกิจ ไม่ผูกขาดอำนาจรัฐ ต้องยึดโยงหลักนิติรัฐ นิติธรรม และคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศ และประชาชนเป็นหลัก” พล.ต.คงชีพ กล่าว และว่า ในที่นี้การคืนอำนาจประชาธิปไตยเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วม ควรดำเนินการตั้งแต่ระดับท้องถิ่น ควบคู่กันไปกับการเมืองส่วนกลางอีกด้วย พล.ต.คงชีพ กล่าวต่อว่า ตนขอให้ทุกพรรคเปิดใจกว้าง รับฟังความคิดเห็นอย่างไม่มีอคติ โดยนำปัญหาในอดีต มาเป็นข้อพิจารณา และสิ่งที่ละเลยไม่ได้คือการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกิดจากเหตุการณ์ทางการเมือง ทั้งนี้กระบวนการสร้างความปรองดองเป็นของประชาชน ตนอยากให้ช่วยกันเดินหน้าและประคับประคอง โดยไม่สร้างเงื่อนไข และยืนยันว่ากระบวนการดังกล่าวทุกกลุ่มมีความตั้งใจ และมีความเป็นกลาง พร้อมทั้งเปิดกว้างรับฟังทุกฝ่าย โดยให้อิสระในการเสนอความคิดเห็นอย่างไม่จำกัด พล.ต.คงชีพ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ เวลา13.30-16.30 น. จะเชิญ พรรคกสิกรไท พรรคประชาชนไทย และพรรคเพื่อฟ้าดิน ส่วนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ จะเชิญ พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า พรรครักษ์ท้องถิ่นไทย และพรรคไทยรักธรรม เข้าร่วมหารือ และเสนอแนะแนวทางปรองดองที่ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม