พระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ "บิ๊กตุ๋ย" บิ๊กทหารร่วมงานแน่นวัด ขณะที่ "บิ๊กต๊อก" อดีต ทส. เผยรักเหมือนพ่อ แบบอย่างทหาร รักปกป้องชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ เป็นผู้นำ เรื่องงาน-ครอบครัว เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 22 ก.พ. ที่วัดโสมนัสวิหาร สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี อดีตผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) อดีตรมว.มหาดไทย และอดีตเลขาธิการคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสโลหิตเมื่อวันศุกร์ 17 ก.พ. ที่ผ่านมาโดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีรับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ โดยในงานมีบุคคลสำคัญมาร่วมรดน้ำศพจำนวนมาก เช่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหมพล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ) พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีต ผบ.ทบ. และ หัวหน้าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) มาร่วมงาน นอกจากนั้นยังมีนายทหาร จปร.5 และ รสช.ที่มีบทบาทสำคัญช่วงและหลังเหตุการณ์เดือนพ.ค.2535 เช่น พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีต ผบ.ทบ.และ รองประธานคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) พล.อ.ชัยณรงค์ หนุนภักดี อดีตเสนาธิการทหารบก และ พล.อ.วิโรจน์ แสงสนิท อดีต ผบ.สส. พล.อ.วิมล วงศ์วานิช อดีต ผบ.ทบ. พล.อ. ศัลย์ ศรีเพ็ญ พล.อ.อารียะ อุโฆษกิจ พล.อ.ชัชชม กันหลง เป็นต้น มาร่วมงาน รวมถึงนายทหารใกล้ชิด พล.อ.อิสระพงศ์ และเติบโตมาในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) เช่น พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี และอดีตรอง ผบ.สส. พล.อ. ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี และอดีต รอง ผบ.ทบ. พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร รอง ผบ.ทบ.ด้วย พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีต ผบ.ทบ.และ รองประธานคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี กล่าวว่า ในวันที่ท่านเสียชีวิตตนก็อยู่ที่โรงพยาบาลตั้งแต่ 6 โมงเช้า ท่านเสียชีวิตประมาณ 10 โมงเช้ารู้สึกเสียใจเพราะใกล้ชิด ผูกพัน เหมือนเป็นครอบครัว แต่วันที่ตกใจคือวันแรกที่รู้ข่าวท่านเกิดอุบัติเหตุหกล้ม เนื่องจากสภาวะลิ่มเลือด ต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเกือบ 1 ปีก่อนจะล้ม ท่านแข็งแรง ตีกอล์ฟ ว่ายน้ำ แข็งแรงมาตลอด แต่เป็นเรื่องสุดวิสัย โชคไม่ดี เป็นภาวะที่เกิดจากเคมีในร่างกาย พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวอีกว่า ตอนเรียนจบจากโรงเรียนนายร้อย จปร. มาทำงานกับท่านในฐานะนายทหารคนสนิท ครั้งพล.อ.อิสระพงษ์ เป็นผู้การ ร.11 รอ. อยู่กับท่านมา3-4ปี ก็ทำงานมาเรื่อยๆทำหน้าที่นายฝ่ายเสนาธิการ ท่านก็สอนอะไรหลายอย่าง ทั้งการบริหารจัดการงานต่างๆ แนวทางการทำงาน ก็ซึมซับแนวทางการใช้ชีวิต สอนให้เป็นทหารที่ยึดมั่นต่อการปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และการบังคับบัญชา เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน
"ท่านมีบุคลิกลักษณะท่านมีความเป็นผู้นำ ผมนับถือท่านเป็นผู้ปกครองคนหนึ่งเลย เป็นคนให้ประสบการณ์ เพราะผมเป็นทหารจบใหม่ จึงได้เรียนรู้ ได้อยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ดี ท่านไม่ใช่คนดุ แต่เป็นคนทำงานแล้วต้องได้งาน เมื่อมีการประชุมสามารถสรุปการประชุม บริการจัดการงานให้เป็นรูปธรรมได้ วันที่ท่านเสียชีวิต ช่วงสาย ก็ไปอยู่กับท่านตั้งแต่ 6 โมงเช้า ก็รู้สึกเสียใจ เพราะรักท่านเหมือนพ่อ" พล.อ.ไพบูลย์ เผย
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่อยากจะพูดถึงเหตุการณ์ช่วงพฤษภาทมิฬ ปี 2535 แต่ก็ยอมรับว่า ในฐานะที่เป็นทหาร เมื่อบ้านเมืองมีปัญหา ก็ต้องแก้ไข แต่เป็นเรื่องการเมือง ก็เป็นอย่างนี้ จึงไม่ขอกล่าวถึง วันนี้ขอพูดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างระหว่างตนกับนาย ที่มีความผูกพันธ์กัน