คืบหน้า"วิลาศ"คาด"เจริญ"เอี่ยวรุกอุทยานฯ

ตามที่สยามรัฐออนไลน์ได้นำเสนอข่าวว่า "วิลาศ"คาด "เจริญ "เอี่ยวรุกอุทยานฯ ด้าน" วัชระ "ค้านใช้ ม. 44 สร้างเขื่อนแม่วงศ์ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ได้แถลงข่าวเปิดเผยถึงการทุจริตของนายเจริญ จรรย์โกมล อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า มีความเชื่อมโยงกับกรณีการตัดไม้ทำลายป่า สืบเนื่องจากตนทราบว่า มีการรุกพื้นที่ป่าสวนรุกขชาติน้ำผุดทับลาว ที่อยู่ อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ขึ้นตรงกับสำนักวิจัยพันธ์ุพืช กรมอุทยานแห่งชาติ ที่ผ่านมานั้น ตนได้สืบเรื่องนี้ไปบ้างแล้ว พบว่า มีกรณีการรุกป่าที่ชัดเจนมาก โดยมีการจัดสรรงบประมาณไปให้กับกรมท่องเที่ยว โดยจัดสรรงบประมาณเพื่อรีสอร์ทในพื้นที่นี้จำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งแรกมีการอนุมัติงบประมาณ จำนวน 20 ล้าน 6 แสนบาท เมื่อปี 2554 และเมื่อปี 2556 มีการอนุมัติงบอีก 15 ล้านบาท และมีการใชงบประมาณปรับปรุงภูมิทัศน์อีกจำนวน 6 ล้านบาท ซึ่งตนไม่รู้ว่าปรับปรุงภูมิทัศน์กันอย่างไร แต่มีการตัดไม้กันมากมาย คำอ้างของหัวหน้าสวนรุกขชาติฯ อ้างว่าตัดแค่ต้นกฐินณรงค์ยักษ์ แต่ความจริงแล้วไปตัดไม้มากกว่านั้น ซึ่งตนสืบทราบว่า ไม้ที่ตัดไปส่วนหนึ่งนั้น นำไปสร้างบ้านให้กับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ชื่อว่า นายชวนชม ต่อชีวัน นายวิลาศ กล่าวต่อว่า อีกประการหนึ่งที่ตนทราบคือมีการปลุูกบ้านรอบพื้นที่สวนรุกขชาติฯ นี้ จำนวน 160 ไร่ ซึ่งผู้รับเหมาที่รับงานสร้างรีสอร์ทนี้นั้น คือ บริษัท นพนัญเจริญ จำกัด ซึ่งผู้จัดการนั้นมีสามีเป็น สจ. ของอำเภอเกษตรสมบูรณ์ ซึ่งอำเภอนี้เป็นพื้นที่ของการเลือกตั้งนายเจริญ ซึ่งตนคาดว่าน่าจะมีความเกี่ยวข้องกันอยู่บ้าง ดังนั้นตนจึงขอเรียกร้องเอาผิดไปทั้งกรมอุทยานทั้งกรมในฐานะเป็นเจ้าของพื้นที่ กรมการท่องเที่ยวที่มีก่อสร้างรีสอร์ทในพื้นที่ เอาผิดผู้ออก สปก. อนุญาตให้ก่อสร้างบ้านในบริเวณรอบเขตสงวน เพราะตนทราบว่า การออก สปก.นั้นจะต้องออกให้กับผู้ยากไร้เท่านั้น บทความดังกล่าวข้างต้น สยามรัฐออนไลน์ได้นำเสนอตามนั้นจริง ส่วนข้อเท็จจริงจะพิสูจน์เป็นอย่างไรให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือบทความดังกล่าวที่เสนอไปนั้น หากกระทบต่อสิทธิทำให้นายเจริญ จรรย์โกมล อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎรเสียหาย ทางสยามรัฐออนไลน์ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย