วันที่ 23 ก พ 60 ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีหมิ่นเบื้องสูง ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อดีตบรรณาธิการนิตยสารวอยซ์ ออฟ ทักษิณ: เสียงทักษิณ (VOICE OF TAKSIN) และแกนนำกลุ่ม 24 มิถุนา เพื่อประชาธิปไตย อายุ 56 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่นและแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ และองค์รัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อัยการโจทก์ฟ้อง เมื่อวันที่ 22กรกฎาคม.54 ระบุความผิดสรุปว่า ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ - 15 มีนาคม 53 จำเลย เป็น บก.นิตยสาร วอยซ์ ออฟ ทักษิณ ได้จัดพิมพ์ จัดจำหน่าย เผยแพร่นิตยสารวอยซ์ ออฟ ทักษิณ: เสียงทักษิณ ปีที่1 ฉบับที่ 15 ปักษ์หลัง เดือน กุมภาพันธ์ 53 ที่พิมพ์บทความ คมความคิด ของผู้ใช้นามปากกาว่า จิตร พลจันทร์ เรื่องแผนนองเลือดกับยิงข้ามรุ่น หน้าที่ 45 - 47 โดยเนื้อหาบทความสื่อในลักษณะหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งไม่มีมูลความจริง เหตุเกิดที่แขวง-เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร และทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักรไทย ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58, 91, 112 และขอให้นำโทษจำคุกคดีอาญาหมายเลขแดง อ.1078/2552 ที่หมิ่นประมาท พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ซึ่งศาลอาญานี้ได้มีคำพิพากษาแล้ว มาบวกกับโทษจำคุกคดีนี้ด้วย จำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดีว่าเป็นเพียงลูกจ้างในนิตยสาร ได้รับค่าตอบแทน 25,000 บาทต่อเดือน และจำเลยไม่มีเจตนา ซึ่งนามปากกาการเขียนบทความ จิตร พลจันทร์ คือ นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ได้เขียนบทความส่งมายังนิตยสารเป็นประจำและได้มีการตีพิมพ์หลายครั้ง โดยเมื่อจำเลยอ่านบทความแล้วเห็นว่าเป็นการกล่าวถึงอำมาตย์เท่านั้น และเป็นการกล่าวเตือนถึงความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น ไม่ได้หมายถึงพระมหากษัตริย์ ศาลชั้นต้นพิพากษา จำคุกจำเลย 2 กระทงๆ ละ 5 ปี รวมจำคุก 10 ปี และให้นับโทษ 1 ปี คดีหมิ่นประมาทฯ พล.อ.สพรั่ง ด้วย รวมจำคุกจำเลย ทั้งสิ้น 11 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า ที่นายสมยศจำเลยยื่นฎีกาเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามฎีกา การที่จะสามารถยื่นได้นั้นจะต้องมีผู้รับรองฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 ที่จำเลยฎีกาว่าบทความหมายถึงอำมาตย์ซึ่งไม่ใช่พระมหากษัตริย์เป็นการฎีกาในข้อเท็จจริง คดีนี้จำเลยจึงไม่สามารถฎีกาได้ ส่วนที่จำเลยต่อสู้ว่าตนเอง เป็นบรรณาธิการไม่ใช่ผู้เขียนบทความ และได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่เขียนบทความหมิ่นเบื้องสูง ไม่มีเจตนาและ มีความจงรักภักดีต่อสถาบัน นั้นศาลเห็นควรปรับบทลงโทษเพื่อให้เหมาะสมกับพฤติการณ์ เพศอายุ และการศึกษา แก้เป็นจำคุกจำเลยในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กระทงละ3 ปี 2กระทงรวม 6 ปี และให้นับโทษจำคุก 1 ปี ในคดีหมิ่น พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตรรวมจำคุกทั้งสิ้น 7 ปี นายสมยศ กล่าวภายหลังว่า ตนจำคุกมาแล้ว 5 ปี เศษ เดือนเมษายนนี้ก็จะครบ 6 ปี เมื่อถามว่าจะมีอะไรกล่าวหรือไม่ นายสมยศ กล่าวว่า ก็ขอให้ปรองดองกันให้ได้แล้วกัน