เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 ก.พ. ที่บริเวณแนวกั้นฝั่งวัดพระธรรมกาย ริมถนนเลียบคลองแอน ทางเข้าประตู 5-6 วัดพระธรรมกาย พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผอ.ฝ่ายสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย ได้ออกมาแถลงการประจำวันว่า เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.00 น.เจ้าหน้าที่ทหารได้ทำการพังประตูบริเวณอาคารบุญรักษาซึ่งเป็นอาคารที่เจ้าที่ได้เคยเข้าไปตรวจสอบแล้ว พร้อมกับนำลวดหนามมาวางไว้เป็นแนวกั้น ทำให้พระลูกวัดที่ยืนดูแลอาคารบริเวณดัวกล่าวพบเห็นและเข้าไปยื้อยุดกับทางเจ้าหน้าที่จนทำให้พระสงฆ์ได้รับบาดเจ็บหลายรูป หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงหยุดปฏิบัติหน้าที่และได้นำรั้วลวดหนามดังกล่าวออกไปแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่และพระที่ดูแลบริเวณนั้น แต่ตอนนี้ทราบว่ามีชาวบ้านและลูกศิษย์วัดส่วนหนึ่งทยอยเดินทางเข้าไปเสริมกำลังที่บริเวณดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตามสำหรับอาคารบุญรักษาหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่เคยนำคณะสื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบก่อนหน้านี้แล้วนั้นจะเห็นได้ว่าอาคารดังกล่าวยังสร้างไม่เสร็จมีแต่อาคารโล่งๆ อยู่ในขั้นตอนการตกแต่ง ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโว ปฏิเสธไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นนั้นทางวัดขอชี้แจงว่าหลวงพ่อไม่ได้ปฏิเสธ ทางวัดให้ความร่วมมือโดยส่งผู้ช่วยเจ้าวาดและพระนพพร ซึ่งเป็นผู้ช่วยสำนักสื่อสารองค์กรเข้าไปประสานงานและเจรจาพูดคุยมาโดยตลอดแต่เมื่อนำข้อเสนอมาแจ้งให้กับทางลูกศิษย์ทราบทางลูกศิษย์ได้ขอว่ายังไม่สบายใจและรู้สึกกังวลยังไม่อยากให้มีการเข้าตรวจค้น ทางหลวงพ่อทัตตะชีโวซึ่งทำหน้าที่เป็นเพียงส่งสารความประสงค์ของกลุ่มสาธุชนมาบอกกล่าวให้กับทางเจ้าหน้าที่ได้รับทราบเท่านั้น จึงอยากขอความเป็นธรรมให้กับพระผู้เฒ่าอายุ 76 ปีที่ไม่มีเจตนาที่จะปฏิเสธเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด ส่วนประเด็นที่ทางเจ้าหน้าที่จะออกหมายจับพระสงฆ์ 14 รูป ในบัญชีรายชื่อนั้นขอความเป็นธรรมและเห็นใจ เพราะพระที่ถูกเรียกไปรายงานตัวนั้นตอนนี้อยู่ในเขตพื้นที่ควบคุมพิเศษของเจ้าหน้าที่ หากออกไปก็กลับเข้ามาไม่ได้ จึงขอความเมตตาอย่าออกหมายจับพระเลย เช่นเดียวกับกรณีที่มีข่าวว่าจะมีการตัดน้ำตัดไฟ ตนขอร้องว่าอย่าทำเลยเพราะไม่ใช่แค่วัดที่เดือดร้อน แต่จะทำให้ ประชาชนที่อยู่ในวัดและบริเวณโดยรอบเดือดร้อนไปด้วย ซึ่งการกระทำลักษณะดังกล่าวจะทำให้รู้สึกว่าการที่บอกว่าจะมาประนีประนอมและสร้างความมั่นใจให้กับญาติโยม และจะเข้ามาตรวจสอบด้วยความเรียบร้อย แต่กลับกลายเป็นการนำกำลังเจ้าหน้าที่มาเสริมให้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ทำไมไม่ใช่แนวทางสันติปรองดองของคณะ ปยป. ถ้าเจ้าหน้าที่ยกเลิกม.44 แล้วถอนกำลังออก แล้วไม่ต้องประกาศว่าจะมาค้นวัด ญาติโยมก็จะไม่รู้ หากต้องการมาค้นเมื่อไหร่ก็ประสานมาแล้วก็ค้นได้เลย การที่ไปประกาศว่าจะมาค้นวัดกลับเป็นการเชื้อเชิญพระจากที่อื่นเข้ามาแทน ทางที่ดีที่สุดคือยกเลิก ม.44 แล้วหันมาใช้สันติวิธีพูดคุยกัน หากต้องการเข้าค้นทางวัดพร้อมจะให้เข้าตรวจค้นได้ตลอดเวลา สำหรับธงที่เอามาติดไว้นั้นเป็นธงที่ประเทศพุทธศาสนาทุกประเทศรวมมติให้ใช้ธงนี้เป็นธงสากลทางพุทธศาสนา เรียกว่า ธงฉัพพรรณรังสี ไม่ใช่ธงแปลกใหม่อะไร สำหรับธงประจำประเทศไทยจะเป็นธงธรรมจักร แต่ถ้าพุทธสากลทั่วโลกจะใช้ธงนี้เป็นสัญลักษณ์ เมื่อเวลา 11.00 ที่บริเวณทาวเข้าประตู 7 วัดพระธรรมกาย พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 ได้ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการเตรียมนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่เป้าหมายจำนวน 3 กองร้อย แต่คงต้องรอการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเสียก่อนว่าจะมีบทสรุปถึงกำลังพลอย่างไร