นางคมคาย ธูสรานนท์ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2559 บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับสุทธิจำนวน 12,991 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จากการเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันรับปีต่อไป ซึ่งมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 48 จากผลของเบี้ยประกันรับปีแรกของปีก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่เบี้ยประกันรับปีแรกของไตรมาสที่ 4 ปี 2559 มีจำนวน 4,106 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 40 เนื่องจากในไตรมาสที่ 4 ปี 2558 มีการขายแบบประกันสะสมทรัพย์ระยะกลางผ่านช่องทางธนาคารเป็นจำนวนมาก ทำให้ในปี 2559 กรุงเทพประกันชีวิตมีเบี้ยรับประกันภัยรวมจำนวน 43,332 ล้านบาท ลดลงจากปี 2558 ร้อยละ 3 โดยเป็นการลดลงของเบี้ยประกันภัยรับจากช่องทางธนาคาร ซึ่งลดลงร้อยละ 8 “ในขณะที่บริษัทมีการเติบโตของเบี้ยประกันรับในช่องทางตัวแทน และช่องทางประกันกลุ่ม ร้อยละ 5 และร้อยละ 11 ตามลำดับ ทำให้ช่องทางธนาคารมีสัดส่วนเบี้ยรับรวมลดลงจากร้อยละ 65 เป็นร้อยละ 62 และช่องทางตัวแทนมีสัดส่วนเบี้ยรับประกันภัยรวมเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 32 เป็นร้อยละ 35 ในปี 2559 การเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับในช่องทางตัวแทน เกิดขึ้นจากการแนะนำแบบประกันใหม่ที่ได้รับการยอมรับจากประชาชน และการพัฒนาคุณภาพและการสร้างบุคคลากรใหม่เพื่อการขยายการเติบโตในช่องทางทั่วประเทศ” นางคมคาย กล่าว ทั้งนี้ ในปี 2559 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิที่ 5,122 ล้านบาทเปรียบเทียบกับผลกำไรสุทธิของปี 2558 ที่ 4,113 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวม 282,359 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2559 เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ร้อยละ 13 ส่วนใหญ่เกิดจากสินทรัพย์ลงทุนที่เพิ่มขึ้นจำนวน 25,635 ล้านบาท อัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 ที่ร้อยละ 252 สูงกว่าอัตราขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนดมากกว่า 2 เท่าแสดงถึงความมั่นคงในฐานะทางการเงินของบริษัท “ในไตรมาสที่ 4/2559 บริษัทฯ ได้ผลักดันการสร้างตลาดสำหรับแบบประกันใหม่ที่มีการเปิดตัวในปี 2559 โดยในช่องทางธนาคาร บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับแบบประกันระยะยาว ทั้งประเภทสะสมทรัพย์ และประเภทคุ้มครองตลอดชีพ โดยได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพ แนะนำแบบประกันใหม่ โฮลไลฟ์เฟิสต์ มรดกลูกหลาน ซึ่งมีจุดเด่นที่ เบี้ยประกันภัยต่ำ คุ้มครองสูง ลูกค้าสามารถเลือกระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัยได้ทั้งแบบ 5 ปี 10 ปี 15 ปี 20 ปี หรือถึงอายุ 90 ปีรับความคุ้มครอง 400% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ หรือ รับ 200% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยเมื่อครบกำหนดสัญญา และสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับแบบประกันใหม่ในช่องทางตัวแทน ได้แก่ บีแอลเอ ซีเนียร์ สุขใจ (เพื่อผู้สูงอายุ) และบีแอลเอ ปันสุข ซึ่งได้มีการเปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 รวมทั้งแผนความคุ้มครองด้านสุขภาพที่ได้รับการตอบรับที่ดี อาทิ บีแอลเอ เฮลธ์พลัส บีแอลเอ รักษ์สุขภาพ และบีแอลเอ สุขภาพ 2011 นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวโครงการวางแผนการเงินเพื่อการเกษียณอายุผ่านแบบประกันบำนาญต่างๆ โดยเฉพาะ บีแอลเอ พร้อมเกษียณ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทฯ ยังได้เปิดตัวช่องทางออนไลน์ที่ได้รับอนุมัติจาก คปภ. เป็นบริษัทประกันชีวิตบริษัทแรก และยังได้รับการรับรองมาตรฐานระบบบริหารความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ ISO 27001:2013 ซึ่งลูกค้าสามารถซื้อกรมธรรม์ผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วผ่านระบบออนไลน์ได้โดยตรง รวมทั้งการชำระเงินผ่านช่องทางต่างๆ และสามารถรับกรมธรรม์จากบริษัทโดยไม่จำเป็นต้องรับบริการผ่านพนักงานของบริษัท โดยมีแบบประกันออนไลน์ใหม่ สมาร์ท 168 เปิดตัวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2559 “สำหรับธุรกิจประกันชีวิตโดยรวมมีเบี้ยประกันชีวิตรับรวม ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2559 มีจำนวนเท่ากับ 568,260 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนที่ร้อยละ 5.72 โดยแยกเป็นเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่จำนวน 161,569 ล้านบาท อัตราการเติบโตลดลงร้อยละ 5.75 และเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไปจำนวน 406,692 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.09” นางคมคาย กล่าวทิ้งท้าย