กลุ่มบริษัทเอไอเอรายงานผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม มูลค่าธุรกิจใหม่โตร้อยละ 28 จากอัตราแลกเปลี่ยนที่คงที่ กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 พร้อมเงินปันผลงวดสุดท้ายเพิ่มร้อยละ 25 มีรายงานข่าว แจ้งว่า คณะกรรมการบริษัทของกลุ่มบริษัทเอไอเอ (“เอไอเอ” หรือ “บริษัท” รหัสหลักทรัพย์: 1299) มีความยินดีที่จะประกาศผลการดำเนินงานที่ดีเยี่ยมของปีสิ้นสุด ณ 30 พฤศจิกายน 2559 ซึ่งจุดเด่นของผลการดำเนินงานจะรายงานจากอัตราแลกเปลี่ยนที่คงที่ การเติบโตที่ยอดเยี่ยมของมูลค่าธุรกิจใหม่ มูลค่าธุรกิจใหม่ขยายตัวร้อยละ 28 หรือเท่ากับ 2,750 ล้านเหรียญสหรัฐ เบี้ยประกันภัยรับปีแรกเพิ่มขึ้นร้อยละ 31 หรือเท่ากับ 5,123 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีอัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) คิดเป็นร้อยละ 52.8 ส่วนผลกำไรจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยมีกำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี (OPAT) ตามมาตรฐานการรายงานบัญชีสากล IFRS 3,981 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 รายได้จากการดำเนินงานตามมาตรฐานการรายงานบัญชีสากล IFRS ต่อหุ้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 หรือเท่ากับ 33.25 เซ็นต์สหรัฐ ขณะที่มูลค่าธุรกิจในส่วนกำไรจากการดำเนินงาน (EV) เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 หรือเท่ากับ 5,887 ล้านเหรียญสหรัฐ ผลตอบแทนจากการดำเนินงานที่เกี่ยวกับมูลค่าธุรกิจในส่วนกำไรจากการดำเนินงาน (ROEV) เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.4 มีสถานะเงินสดหมุนเวียนที่แข็งแกร่งและมีเงินทุนที่มั่นคง และมีเงินสดสำรองสำหรับใช้จ่ายเป็นมูลค่า 4,024 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 พร้อมกันนี้ยังมีเงินสดหมุนเวียนส่วนเกิน รวม 9.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าหุ้นตามมูลค่าธุรกิจเท่ากับ 43.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีมูลค่าธุรกิจเท่ากับ 42.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 12มีเงินโอนจากต่างประเทศสุทธิ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับอัตราส่วนของการดำรงเงินกองทุนตามพระราชบัญญัติบริษัทประกันชีวิตฮ่องกงของเอไอเอ มีสัดส่วนเท่ากับร้อยละ 404 และมีเงินปันผลจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น โดยเงินปันผลเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 25 คิดเป็นมูลค่าเท่ากับ 63.75 เซ็นต์ฮ่องกงต่อหุ้น หากคิดเป็นเงินปันผลรวมทั้งหมดเป็นมูลค่า 85.65 เซ็นต์ฮ่องกงต่อหุ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 มร. มาร์ค ทัคเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า “กลุ่มบริษัทเอไอเอมีผลการดำเนินงานในปี 2559 ที่ยอดเยี่ยมมาก เราสามารถบรรลุเป้าหมายทั้งในด้านกำไรของธุรกิจใหม่ มีรายได้ที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ มีเงินสดสำรองสำหรับใช้จ่ายที่แข็งแกร่ง และสามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราที่เพิ่มสูงขึ้นได้ โดยมีตัวเลขที่โดดเด่น คือมูลค่าของธุรกิจใหม่ที่เติบโตได้มากถึงร้อยละ 28 การเติบโตของผลกำไรที่สม่ำเสมอทุกปี ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการความสามารถในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค การมีรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่มีความหลากหลายและยืดหยุ่นสูง รวมทั้งความมุ่งมั่นที่จะสร้างธุรกิจที่มีคุณภาพสูงและยั่งยืนในระยะยาว “คณะกรรมการบริษัทได้เสนอจ่ายเงินปันผลของปี 2559 ในอัตราที่เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 25 หรือเท่ากับ 63.75 เซ็นต์ฮ่องกงต่อหุ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นจากปี 2558 การจ่ายเงินปันผลที่เพิ่มสูงขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นถึงผลดำเนินงานทางการเงินที่ยอดเยี่ยม และเราเชื่อมั่นในแนวโน้มการเติบโตในอนาคตของกลุ่มบริษัทเอไอเอ กลุ่มบริษัทเอไอเอดำเนินธุรกิจในเอเชียมาเกือบหนึ่งศตวรรษแล้ว โครงสร้างทางเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและประชากรศาสตร์ที่เกิดขึ้นทั่วภูมิภาคเป็นโอกาสที่วิเศษมากสำหรับอุตสาหกรรมประกันชีวิตในเอเชีย ซึ่งหนึ่งในผู้ได้รับโอกาสนี้ก็คือเอไอเอ จากการที่เรามีช่องทางจำหน่ายที่สามารถเข้าได้ทั่วถึง มีแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีความแข็งแกร่งทางการเงิน และความสามารถของพนักงานและตัวแทนมืออาชีพ ล้วนช่วยให้เราได้เปรียบในการดำเนินธุรกิจ เราเริ่มต้นปี 2560 ได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยตัวเลขการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณของเรา เรามีลำดับความสำคัญของกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน และมุ่งมั่นที่จะสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันด้วยการตอบสนองความต้องการทางการเงินในระยะยาวของลูกค้าผ่านกรมธรรม์และบริการของเรา ซึ่งจะช่วยให้เรามีพื้นฐานที่แข็งแกร่งที่จะสร้างความเติบโตของผลกำไรและมูลค่าทางธุรกิจในระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้น เช่นเดียวกับที่เราช่วยให้ลูกค้ามีอายุที่ยืนยาวขึ้น มีสุขภาพที่แข็งแรง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตลอดจนสามารถวางแผนอนาคตที่สดใสมากขึ้น” มร. มาร์ค ทัคเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าว