เมื่อเวลา 09.45 น. ที่บริเวณท้องสนามหลวงด้านทิศใต้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีบวงสรวงการก่อสร้างและยกเสาเอกพระเมรุมาศในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศฯ โดยมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ข้าราชการกรมศิลปากร และข้าราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวรายงานตอนหนึ่งว่า ในนามของคณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศและบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศฯ รัฐบาล และพสกนิกรชาวไทยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ จึงพร้อมใจกันแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที ซึ่งการสร้างพระเมรุมาศสำหรับถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชเป็นราชประเพณีที่สืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา รูปแบบพระเมรุมาศเปรียบดังทิพยวิมานที่ประดิษฐานอยู่เหนือยอดเขาพระสุเมรุอันเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ซึ่งรัฐบาลกำหนดจัดพิธีบวงสรวงการก่อสร้างและยกเสาเอกพระเมรุมาศ สำหรับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ เวลา 10.01 น. ตามเวลามหัทธโนฤกษ์ เพื่อเป็นนิมิตรหมายอันดีให้การดำเนินงานน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมสนองพระมหากรุณาธิคุณสำเร็จลุล่วงสมดังมโนปณิธานทุกประการ โดยนายกฯ จุดธูปเทียนที่เครื่องบวงสรวงก่อนทำพิธีสรงน้ำ ปิดทอง และผูกผ้าแพร 3 สีที่เสาเอกพระเมรุมาศ พร้อมโปรยข้าวตอกดอกไม้และวางพวงมาลัยที่โคนเสาเอกฯ จากนั้นนายกฯได้ถวายภัตตาหารพร้อมด้วยเครื่องไทยธรรมและจตุปัจจัยแด่พระสงฆ์จำนวน 10 รูป ต่อมาหลังเสร็จสิ้นพิธีนายกฯได้เยี่ยมชมแบบผังพระเมรุมาศและตรวจการก่อสร้างพระที่นั่งทรงธรรม ก่อนตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของกรมศิลปากร ณ วิธานสถาปกศาลา (โรงขยายแบบ) บริเวณท้องสนามหลวงด้านทิศใต้ - พอใจการก่อสร้างพระเมรุมาศ เสร็จ ต.ค. 60 ภายหลังตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของกรมศิลปากร นายกฯ ให้สัมภาณ์ว่า ได้มาตรวจเยี่ยมการทำงาน ซึ่งรับผิดชอบโดยกรมศิลปากร โดยมีกองช่าง หน่วยงานต่างๆ มากมาย ซึ่งวันนี้เป็นการลงเสาเอก และเป็นพิธีเข้มขลัง แสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถของผู้ประกอบการชาวไทยในการออกแบบ ในการใช้ผลิตภัณฑ์ในประเทศ และที่สำคัญอยากให้สังคม ประชาชน ได้เรียนรู้ว่าประเทศไทยของเรามีสิ่งที่งดงาม มีสิ่งที่เป็นจารีตประเพณี อัตลักษณ์ความเป็นไทยมากมาย รูปแบบอาคารต่างๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่พวกเราภาคภูมิใจร่วมกัน ในการทำถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่รัชกาลที่ 9 ตนถือว่าเป็นสิ่งที่คนไทยทั้งประเทศร่วมมือร่วมใจกันทำตลอดระยะเวลาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 ซึ่งก้าวหน้าและคาดว่าจะใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 1 ปี หรือประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคม 2560 ก็เสร็จเรียบร้อย และจะมีพิธีที่ยิ่งใหญ่ เพื่อถวายพระเพลิงพระบรมศพ "ช่วงนี้อยากให้ทุกคนสงบสติอารมณ์ ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย นึกถึงคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศเขาบ้าง จะทำอะไรก็ตามนึกถึงคนส่วนใหญ่ของประเทศ รัฐบาลคิดทุกอย่าง นึกถึงคนทั่วประเทศอยู่ทุกวันๆ แก้ปัญหาทุกปัญหาทุกวันๆ เพราะฉะนั้นอะไรที่ไม่จำเป็น อะไรที่เป็นความขัดแย้ง อะไรที่ไม่สร้างสรรค์อย่าไปให้ความสนใจมากนัก ให้เจ้าหน้าที่เขาทำงานเท่านั้นเอง" นายกฯกล่าว นายกฯ กล่าวอีกว่า ขอบคุณอีกครั้งสำหรับเจ้าหน้าที่และขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ซึ่งในส่วนของรัฐบาลที่ได้มอบหมายรองนายกฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และรัฐมนตรีส่วนที่เกี่ยวข้องรวมถึงคณะกรรมการอำนวยการฯทั้งคณะ ที่ตนเป็นประธาน วันนี้ได้มาเห็นความก้าวหน้าและสบายใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนงาน "การจะทำอะไรก็ตามต้องมีแผนงาน การสร้างที่นี่ก็มีแผนงานไปจบเดือนกันยายน-ตุลาคม เหมือนกับรัฐบาลทำงานก็มีโรดแมป นั่นคือโรดแมป ทำเมื่อไหร่ เสร็จเมื่อไหร่ อะไรเมื่อไหร่ แต่ถ้ามันมีอะไรมาขัดขวาง โรดแมปมันก็ขยับ ทำไม่เสร็จ เข้าใจแค่นี้พอ ไม่ต้องเรื่องมาก" พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด