“สหกรณ์” นับเป็นสถาบันทางเศรษฐกิจและสังคมที่มีส่วนในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจระดับฐานรากของประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลก็ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นผ่านระบบสหกรณ์ โดยมุ่งพัฒนาระบบสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็ง สามารถเป็นที่พึ่งแก่สมาชิกได้ แต่การที่สหกรณ์จะดำเนินธุรกิจให้อยู่รอดท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจของไทยที่ยังมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสร้างความเข้มแข็งทางการเงินและสร้างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาวให้กับสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีภารกิจหนึ่งที่สำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์ โดยการนำระบบบัญชี มาใช้บริหารจัดการสหกรณ์อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้ความโปร่งใส ส่งผลประโยชน์สู่สมาชิกและช่วยสร้างฐานรากเศรษฐกิจชุมชนที่มีผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศได้อย่างแข็งแกร่ง เริ่มตั้งแต่การเข้าไปตรวจสอบบัญชีให้มีความเข้มแข็งและเป็นมาตรฐานสากล สร้างธรรมาภิบาลด้านบัญชีการเงิน และพัฒนาโปรแกรมระบบบัญชี เพื่อเป็นเครื่องมือให้สหกรณ์สามารถดำเนินธุรกิจที่โปร่งใสมีมาตรฐาน ตรวจสอบได้ และสามารถนำระบบโปรแกรมบัญชีช่วยบริหารจัดการการดำเนินงานของสหกรณ์ ซึ่งนอกจากการตรวจสอบบัญชีแล้ว กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ยังทำหน้าที่กำกับแนะนำด้านการเงินการบัญชีสหกรณ์และติดตามอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาสหกรณ์ให้เกิดความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน จนมาถึงปัจจุบันที่มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ ไปสู่การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม หรือที่เรียกว่า Thailand 4.0 ก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง วางรากฐานการพัฒนาประเทศระยะยาว โดยขับเคลื่อนไปสู่วิสัยทัศน์ประเทศ“มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน”ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว และตอบสนองภาวะความเปลี่ยนแปลงของธุรกิจสหกรณ์ และกฎระเบียบต่างๆ ที่มีความก้าวหน้าและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยพัฒนางานระบบบัญชีด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ มาเป็นเครื่องมือเสริมสร้างความเข้มแข็งทางการเงินของสหกรณ์ อาทิ โปรแกรมระบบบัญชีให้เหมาะสมและครอบคลุมลักษณะการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ตามสภาพแวดล้อมการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อเพิ่มคุณภาพการให้บริการภาครัฐ และทำให้สหกรณ์มีระบบการเงินและบัญชีที่เป็นมาตรฐาน มีระบบการควบคุมภายในด้านสารสนเทศที่เหมาะสม รวมทั้งสร้างความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ นางบริสุทธิ์ เปรมประพันธ์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ นางบริสุทธิ์ เปรมประพันธ์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวถึงการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้วยนวัตกรรมเพื่อสร้างข้อมูลที่มีคุณค่า ว่า เป็นวิสัยทัศน์ที่กรมฯ ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2560 เป็นต้นมา เพื่อให้สหกรณ์มีเครื่องมือในการช่วยบริหารจัดการงานสหกรณ์ และช่วยให้ผู้บริหารสหกรณ์สามารถนำข้อมูลสารสนเทศทางการเงิน มาใช้ประกอบการตัดสินใจในการบริหารจัดการได้รวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สหกรณ์ พร้อมทั้งกำหนดมาตรการในการเฝ้าระวังและกำกับดูแล โดยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการสร้างระบบเตือนภัยทางการเงินแก่สหกรณ์ในระบบ Real Time เพื่อให้สหกรณ์ได้มีข้อมูลสารสนเทศที่ถูกต้อง ทันการณ์ และสามารถรู้เท่าทันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น อีกทั้งยังได้วางกลยุทธ์ในการสร้างมาตรฐานจริยธรรมด้านการเงินการบัญชีแก่ผู้บริหารสหกรณ์ เพื่อให้สหกรณ์มีผู้บริหารที่มีความเป็นมืออาชีพ สามารถรับมือกับภาวะความเสี่ยงในการบริหารการเงิน ความผันผวนทางเศรษฐกิจและการเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากระบบสหกรณ์ ทั้งนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้วางแผนกลยุทธ์ในปีงบประมาณ 2560 โดยเน้นการสร้างมาตรฐานการบัญชีให้กับสหกรณ์และเข้าไปตรวจสอบบัญชีให้มีความเข้มแข็งและเป็นมาตรฐานสากล โดยทำให้ระบบบัญชีมีคุณภาพ เชื่อถือได้ เกิดความโปร่งใส มุ่งเน้นการบริหารจัดการสหกรณ์ด้วยระบบธรรมาภิบาล และสร้างความเข้มแข็งให้กับบุคลากรที่จะเข้าไปทำงานการสอบบัญชีในการเข้าไปตรวจสอบสหกรณ์แต่ละแห่งอย่างรู้เท่าทัน ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบการสอบบัญชีสหกรณ์ ระบบควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีสหกรณ์ โดยพัฒนาผู้สอบบัญชีให้เป็น Smart Auditor ซึ่งจะนำไปสู่“Real AUDITOR”: องค์กรมืออาชีพ พัฒนามาตรฐานจริยธรรมด้านการเงินการบัญชีของผู้บริหารสหกรณ์และพัฒนาระบบข้อมูล เพื่อการตัดสินใจสำหรับผู้บริหารสหกรณ์ (COOP Smart Decision) เพื่อให้เป็นผู้บริหารสหกรณ์ยุคดิจิทัล พร้อมกันนี้ ยังได้เพิ่มพูนทักษะด้านงานตรวจสอบกิจการให้แก่ผู้ตรวจสอบกิจการทั่วประเทศ โดยจัดอบรมหลักสูตร ผู้สอบกิจการขั้นพื้นฐาน เพื่อให้สามารถนำความรู้เกี่ยวกับการตรวจสอบกิจการไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนอกจากนั้นยังสร้างระบบสร้างระบบเตือนภัยทางการเงินของสหกรณ์ แบบ Real Time เพื่อให้สหกรณ์ทราบข้อบ่งชี้ความเสี่ยงทางการเงินของตนเองและแก้ไขปรับปรุงการดำเนินกิจการได้อย่างทันท่วงทีอีกด้วย “สหกรณ์ทุกแห่งและสมาชิกทุกคนจะต้องตื่นตัวในการนำระบบบัญชีมาใช้บริหารจัดการธุรกิจสหกรณ์และการดำเนินชีวิตเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน ตามนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนผ่านระบบสหกรณ์สู่ความมั่นคงของชาติ ทั้งนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างนวัตกรรมการให้บริการเพื่อนำข้อมูลสารสนเทศที่มีคุณค่า สู่การพัฒนาองค์กรและสหกรณ์ ให้มีความเข้มแข็งอย่างมั่นคง และมีความพร้อมก้าวเข้าสู่ยุค Thailand 4.0 รวมทั้งสร้างทัศนคติที่ดี สร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาให้สมาชิก ซึ่งจะนำมาสู่ความสำเร็จในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของสมาชิก และพัฒนาสหกรณ์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน มีผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ”