ทรงสร้างประโยชน์สุขสู่ปวงประชา พระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ ผ่านโครงการฟาร์มตัวอย่างฯบ้านเคียน เสกสรร สิทธาคม [email protected] สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่9ด้วยน้ำพระทัยห่วงใยราษฏรที่ต้องประสบทุกข์เดือดร้อนจากสภาพปัญหาความไม่สงบที่เกิดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศ ทำให้ราษฎรในพื้นที่มีความยากลำบากในการดำเนินชีวิต การประกอบอาชีพต่างๆ นำไปสู่ความอดอยากยากจนจึงมีพระราชดำริในการแก้ปัญหาความทุกข์ดังกล่าวให้ราษฎรของพระองค์ได้ผ่อนคลายหลุดพ้นจากความทุกข์ดังกล่าวลงได้บ้าง โดยพระราชทานพระราชดำริให้จัดตั้งโครงการฟาร์มตัวอย่างขึ้น ที่จังหวัดปัตตานีถึง 13 แห่ง เพื่อเป็นพื้นที่ช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยคุกคามจากเหตุการณ์การก่อความไม่สงบและภัยธรรมชาติโดยเป็นแหล่งสร้างงานสร้างความรู้ความชำนาญให้แก่ราษฎรในการประกอบอาชีพเพื่อให้มีงานทำ มีอาหารและมีรายได้ เพื่อเป็นปัจจัยยังชีพดำรงตนในชีวิตแต่ละวัน แหล่งสร้งงานดังกล่าว นอกจากเป็นแหล่งให้ราษฎรมีรายได้แล้วแล้วยังทำให้มีความรู้ตามหลักวิชาการในการประกอบอาชีพ เฉพาะอย่างยิ่งด้านเกษตรกรรมไปพร้อมกันด้วย เพิ่มช่องทางสร้างอาชีพเสริมเพื่อดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลที่9อีกทางหนึ่ง โครงการฟาร์มตัวอย่างฯบ้านเคียน เป็นหนึ่งในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่9ที่พระราชทานแก่ราษฎรในตำบลพ่อมิ่ง และพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อช่วยเหลือราษฎรให้มีแหล่งจ้างแรงงานนำไปสู่การมีรายได้ดังกล่าว เป็นพื้นที่แหล่งผลิตอาหาร และให้ความรู้ความชำนาญด้านอาชีพเกษตรที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ บนพื้นที่จำนวน120ไร่ของฟาร์มตัวอย่างบ้านเคียนฯ หมู่ที่1 ตำบลพ่อมิ่ง อำเภอปะนาเระ มีกิจกรรมด้านต้นแบบการพัฒนาอาชีพเกษตรต่างๆประกอบด้วยการเพาะปลูก พืชไร่ ผักหมุนเวียน ผักบุ้ง มะเขือยาว ข้าวโพดอ่อน คะน้า ข้าวโพดหวาน ฟักทอง กระเจี๊ยบแดง แล้วก็พื้นที่ทำนาฯลฯ พื้นที่ปลูกพืชผักสวนครัวรั้วกินได้ เช่น ชะอม ตะไคร้ ฯลฯ และไม้ผล อาทิ มะกรูด มะนาว มะระกอ แก้วมังกร กล้วย มะม่วงและผลไม้พื้นบ้านตามฤดูกาล เป็นต้น มีต้นแบบสร้างอาชีพเสริมเช่นการเพาะเห็ดที่มีโรงเรือนจำนวน10โรงเรือนให้ชาวบ้านบ้านได้มาร่วมถือเป็นทั้งกิจกรรมทำร่วมกันและเป็นที่ฝึกฝนทักษะอาชีพไปด้วย เมื่อมีความเชี่ยวชาญมีความรูแล้วเอาไปทำเป็นอาชีพที่บ้านตนเองก็ได้คือการเพาะเห็ดนางฟ้า เห็ดหูหนูเป็นต้น อีกส่วนหนึ่งฟาร์มตัวอย่างฯมีเจ้าหน้าที่เชี่ยวชาญด้านการฝึกสอนอาชีพเสริมด้านแปรรูปเพิ่มมูลค่าผลผลิตและการถนอมอาหารห ได้จัดการสอนการแนะแนวให้รู้จักการแปรรูปผลิตภัณฑ์ การผลิตน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์สกัดเย็น ผลิตมะพร้าวคั่ว และถ่านกะลามะพร้าว เป็นต้น  สำหรับผลผลิตในฟาร์มตัวอย่างอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระบรมราชินีนาถที่เหลือจากการบริโภคและการแบ่งปันแล้วได้เป็นผลผลิตสร้างรายได้จากการนำขายพื้นที่ภายนอก โดยมีผู้ให้คำแนะนำความรู้ด้านการตลาด คือการหขายส่งให้กับแม่ค้าเช่นตลาดสายบุรี ,ตลาดปาลัส , ตลาดปะนาเระ นอกจากนั้นขายตาม หมู่บ้านใกล้เคียง,ขายปลีกตามงานเทศกาลต่าง ๆ ,ขายส่งที่ตลาดกลางสหกรณ์ห้องเย็นปัตตานีหรืองานของส่วน ราชการต่าง ๆ นางสาวสุนีย์ ทองเตะ ผู้จัดการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่9 บ้านเคียน ตำบลพ่อมิ่ง อำเภอปะนาเระ ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้มีการวางแผนดำเนินการงานฟื้นฟูหลังจากน้ำท่วม 4 รอบที่ผ่านมา โดยการไถแปลงเพื่อหว่านปูนขาวตากดินฆ่าเชื้อโดยเน้นหนักในการปลูกพืชผักหมุนเวียนและพืชไร่ โดยการใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพและปุ๋ยน้ำมีการหว่านปุ๋ยพืชสด เช่น ปอเทืองแล้วไถกลบและยังทำแปลงหญ้าแฝกเพื่อแจกจ่ายแก่ประชาชน มีการส่งเสริมให้สมาชิกเรียนรู้จากการทำงานในฟาร์มกลับไปทำจริงที่บ้านและนำผลผลิตมาจำหน่ายโดยฟาร์มรับซื้อ ทำให้สมาชิกและประชาชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ทางโครงการได้มีการสอนชาวบ้านให้ผลิตปุ๋ยหมักเพื่อนำไปใช้ในการเกษตรต่างๆ เช่น ปลูกข้าว สวนยางพารา ให้กับกลุ่มราษฎรที่สนใจ “ที่เป็นพื้นฐานสำคัญคือเน้นย้ำให้มีความรู้ความเข้าใจในความสำคัญปัจจัยการดำรงชีวิตหลักคือน้ำ ได้เน้นย้ำให้เห็นความสำคัญแล้วนำไปสู่ความสามัคคีที่จะช่วยกันดูแลรักษาเก็บกักน้ำเอาไว้ใช้ในบ้านตัวเองอย่างรู้คุณค่าและตระหนักในประโยชน์เพราะน้ำเป็นปัจจัยสำคัญ แล้วก็ให้ความรู้ในการปรับปรุงบำรุงดิน เช่นอย่างง่ายไม่ต้องลงทุนเงินทองอะไรคือการใช้หญ้าแฝกนำมาปลูกเพื่อดูดซับความชุ่มชื้น เก็บกักตะกอนธาตุอาหาร การผลิตปุ๋ยอินทรีย์น้ำ และปุ๋ยหมักชีวภาพ กิจกรรมทั้งหลายทั้งมวลนั้นเป็นก้าวย่างเชื่อมไปสู่การสร้างปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิตตั้งปัจจัยผลิตพืชผักเป็นอาหาร เป็นปัจจัยนำไปสู่การสร้างรายได้ทั้งขายสดและแปรรูปของราษฏรในพื้นที่” นางสาวสุนีย์ ทองเตะ ผู้จัดการฟาร์มตัวอย่างฯ เล่าให้ฟังถึงความเป็นมาว่าโครงการฯเกิดขึ้นด้วยเพราะพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถรัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งพระราชดำเนินไปกราบนมัสการ พระศรีมงคล (พระอาจารย์ทอง) วัดสำเภาเชย อำเภอปะนาเระ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2550 ทรงรับทราบว่าราษฎรที่ประสบภัยคุกคามจากการก่อความไม่สงบของขบวนการแบ่งแยกดินแดนรัฐปัตตานี จนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ หมู่บ้านที่ประสบภัยคุกคามได้แก่ ราษฎรบ้านบางหมู ตำบลน้ำบ่อ,บ้านเคียน,บ้านนาจวก ตำบลพ่อมิ่ง,บ้านมะรวด ตำบลคอกกระบือฯลฯ ด้วยเพราะทรงห่วงใยราษฎรในพื้นที่ดังกล่าว จึงทรงมีพระราชเสาวนีย์ ให้พลเอกณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์ไปทำการสำรวจพื้นที่เพื่อดำเนินการจัดทำฟาร์มตัวอย่างฯ ช่วยเหลือราษฎรให้มีอาชีพและมีงานทำ มีอาหารเพียงพอรับประทาน ในยามที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินรวมถึงเป็นช่องทางหารายได้เสริม และได้รับที่ดินสาธารณะประโยชน์ มีเนื้อที่ประมาณ 120 ไร่ จัดตั้งเป็นฟาร์มฯขึ้น “หลังจากมีการจัดตั้งฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริเป็นต้นมาชาวบ้านในพื้นที่ก็ได้รับผลประโยชน์จากฟาร์มฯมาโดยตลอด แนวทางการดำเนินงานของฟาร์มฯคือ เปิดให้ทุกคนมาเรียนรู้ที่โครงการฯและนำความรู้ที่ได้กลับไปประกอบอาชีพของตนเอง และยังมีการจ้างงานสำหรับราษฎรในพื้นที่เข้ามาเป็นแรงงานในฟาร์มได้รายได้จากฟาร์มฯ เป็นแหล่งจ้างงานให้คนในพื้นที่อีกทางหนึ่ง มีชาวบ้านเข้ามาขอความรู้เพิ่มมากขึ้น เพราะมีความรู้มากมายในฟาร์มฯให้ชาวบ้านได้มาเรียนรู้มาฝึกฝน มาทดลองแล้วสามารถนำกลับไปปรับใช้ได้จริงในพื้นที่บ้านตัวเอง” ผู้จัดการฟาร์มตัวอย่างฯกล่าวอีกว่าโครงการฟาร์มตัวอย่างฯ สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนในพื้นที่มากมาย ถ้าสมเด็จพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่9 ไม่มีพระราชดำริให้จัดตั้งฟาร์มตัวอย่าง ขึ้นชาวบ้านในพื้นที่ก็คงอยู่อย่างลุ่มๆดอนๆ เพราะไปทำงานอะไรนอกบ้านก็ลำบาก จึงเหมือนอยู่กันแบบไม่มีงานทำ ไม่มีอาชีพที่จะเลี้ยงตนเองและครอบครัวชาวบ้านก็จะลำบากลงเรื่อยๆ อดอยากขึ้นเรื่อยๆ พอเกิดฟาร์มตัวฟาร์มตัวอย่างฯชาวบ้านที่ขยันหมั่นเพียร อดทนก็มีงานทำ มีอาชีพในฟาร์มตัวอย่างฯ ทำให้มีรายได้พอจุนเจือช่วยเหลือครอบครัวพอมีเหลือกินเหลือเก็บบ้าง ไม่ต้องออกไปหางานทำนอกบ้านเกิดตัวเอง ไม่ต้องกังวลอันตรายจากเหตุการณ์ไม่สงบที่จะเกิดขึ้นโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ที่สำคัญได้ความรู้จากการประกอบอาชีพที่มีเจ้าหน้าที่ในฟาร์มฯคอยสอนคอยแนะ “เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงตั้งโครงการฟาร์มตัวอย่างฯบ้านเคียนขึ้น ชาวบ้านในพื้นที่รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์มาโดยตลอด ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ พระชนมายุยิ่งยืนนาน” นางสาวสุนีย์ กล่าว อีกคนป้ามณทิรา ปิยะทัศน์ หัวหน้าโรงน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์สกัดเย็น กล่าวว่า เข้ามาทำงานที่โครงการฟาร์มตัวอย่างฯตั้งแต่ ปี 2553 ฟาร์มให้ทั้งอาชีพ ให้ทั้งรายได้ ให้ทั้งความรู้ทำให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีความสุขมาขึ้น ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาต่างๆ ที่ได้มาทำงานตรงนี้ได้ทั้งความสุขกายสบายใจ มีความสุขที่สุด เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหารที่สุดมิได้ นับเป็นที่ประจักษ์แก่คนในจังหวัดปัตตานีและทั้งประเทศว่าโครงการฟาร์มตัวอย่างฯ บ้านเคียน แห่งนี้ทำให้ราษฎรในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงมีแหล่งจ้างงานที่มั่นคง มีแหล่งผลิตอาหาร รวมทั้งเป็นแหล่งรายได้ให้ความรู้แก่ผู้เข้ามาทำงานในฟาร์มฯ ในการเรียนรู้ด้วยตนเองจากนักวิชาการแต่ละสาขาอาชีพ และเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับราษฎรทั่วไปที่สนใจที่เข้ามาเยี่ยมชมการดำเนินงานโครงการ เข้ามาฝึกฝนอาชีพได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวันและที่ทำกินของตนเองได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังเป็นการสนับสนุนด้านความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในการเสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้กับราษฎรในพื้นที่อยู่ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบให้ได้รับความสะดวกสบายความสงบเพิ่มมากขึ้น สามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ และนำไปใช้ประโยชน์ในที่ดินทำกินของตนเองได้เป็นอย่างดี นั่นคือพระมหากรุณาธิคุณอันเกิดจากน้ำพระราชหฤทัยห่วงใยด้วยพระเมตตาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถที่พระราชทานแก่ปวงพสกนิกรของพระองค์อย่างแท้จริง