วันนี้ที่ท้องสนามหลวงมีนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “เย็นศิระเพราะพระบริบาล”ที่รัฐบาลให้จัดขึ้น เป็นการจัดแสดงพระราชประวัติ พระมหากรุณาธิคุณผ่านรูปธรรมแห่งพระราชกรณียกิจ ผ่านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลที่9 ได้เปิดให้ประชาชนเข้าชมตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.- 6 มี.ค. 60 จำนวนเข้าชม 105,353 คน ที่พระราชทานไว้เพื่อเป็นแนวทางให้ราษฎรได้น้อมนำไปปรับประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต ด้วยรากฐานหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริที่จุดหมายคือความสุขความเจริญงอกงามแห่งชีวิตมีความสุขอย่างยั่งยืนบนความพออยู่พอกิน เพื่อให้ประชาชนที่เดินทางไปถวายบังคมพระบรมศพและประชาชนที่ต้องการไปชมนิทรรศการได้เข้าไปชมนิทรรศการ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานแก่ประชาชนมาตราบพระชนมชีพตลอดเวลา 70 ปีแห่งการครองสิริราชสมบัติ พร้อมทั้งจัดแสดงพระราชประวัติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่10 เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งประชาชนที่เข้าชมนิทรรศการดังกล่าวจะได้ศึกษาเรียนรู้พระราชกรณียกิจและร่วมซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงปฏิบัติเพื่อแบ่งเบาพระราชภาระมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “เย็นศิระเพราะพระบริบาล” สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่10 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาและเปิดให้ประชาชนเข้าชมอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 10 กพ.และจะเปิดต่อไปจนถึงวันที่ 16 มิย.60 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 พลตรีธานี ฉุยฉาย ที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นประธานในการประชุม คณะทำงานด้านการประชาสัมพันธ์ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ "เย็นศิระ เพราะพระบริบาล” ร่วมกับพลตรี วิชาญญ์วร์ บริรักษ์กุล บชน.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมนางศศิพร ปาณิกบุตร ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักพระราชวัง ทหาร กองทัพภาคที่ 1 ตำรวจ กรมประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร มหาดไทย และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กปร. เข้าร่วมประชุม ณ อาคารนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ "เย็นศิระ เพราะพระบริบาล” ท้องสนามหลวง พลตรีธานี ฉุยฉาย ที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 1 เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงแนวทางในการเตรียมความพร้อมและการอำนวยความสะดวก แก่ประชาชนที่เดินทางเข้าร่วมชื่นชมพระบารมี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงบรรเทาความทุกข์ยาก และสร้างประโยชน์สุขให้แก่ประชาชนและประเทศไทยมาโดยตลอดระยะเวลา 70 ปี แห่งการครองสิริราชสมบัติ โดยเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 07.00-19.00 น. แต่ละรอบจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที โดยผู้เข้าชมทุกท่านจะได้รับของที่ระลึกเป็นการ์ดพระราชกรณียกิจ และพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งได้จัดทำไว้ 89 แบบ โดยแจกหมุนเวียนวันละ 1 แบบ ซึ่งในขณะนี้พบว่ามีประชาชนให้ความสนใจเข้าชมนิทรรศการมากขึ้นเรื่อยๆ โดยตั้งแต่เปิดเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งมีทั้งประชาชนที่เดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพพร้อมเข้าชมนิทรรศการ และประชาชนที่เดินทางมาชมนิทรรศการเพียงอย่างเดียว เป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง และหน่วยงานที่แจ้งความประสงค์ขอเข้าชมเป็นหมู่คณะล่วงหน้า ทั้งนี้จะเปิดนิทรรศการให้ประชาชนได้เข้าชมจนถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2560 นี้ ทางด้านนางศศิพร ปาณิกบุตร ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์สำนักงาน กปร. เปิดเผยว่า นิทรรศการเย็นศิระ เพราะพระบริบาลที่จัดขึ้นบริเวณท้องสนามหลวงเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการและมีความประสงค์ให้ประชาชนที่เข้ามากราบบังคมพระบรมศพได้ชื่นชมพระจริยวัตร และพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงปกป้องบ้านเมือง สร้างประเทศไทยมาจวบจนถึงปัจจุบัน ได้เห็นว่าแต่ละรัชกาลนั้นทรงมีพระปรีชาสามารถและพระวิสัยทัศน์มากมายเพียงใด มีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานแนวทางในการแก้ไข และนำพาประเทศชาติให้ผ่านพ้นวิกฤติต่างๆ ได้อย่างไร โดยเฉพาะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่มีพระปรีชาสามารถ ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองสิริราชสมบัติมาจนถึง 70 ปี พระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรทั่วประเทศได้ทอดพระเนตรความทุกข์ยากของราษฎร จึงได้พระราชทานแนวทางแก้ไข จนเกิดเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มากกว่า 4,000 โครงการ กระจายอยู่ทั่วประเทศ ทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่นานาประเทศต่างได้รับรู้ และเข้าใจถึงแก่นแท้ในการนำมาปฎิบัติใช้ ยังผลก่อ เกิด การหลุดพ้นจากความเดือดร้อน ทุกข์ยาก มีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวเองและสังคมมากขึ้นซึ่งได้รวบรวมมานำเสนอไว้ในนิทรรศการที่จัดขึ้น ในครั้งนี้ และที่สำคัญคือ ได้เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ด้วย ซึ่งในนิทรรศการได้รวบรวมพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจของพระองค์มาให้ประชาชนได้ชื่นชมอย่างใกล้ชิดซึ่งจะเห็นได้ว่า พระบรมวงศ์ทุกพระองค์ทรงงานตามเบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 มาอย่างต่อเนื่อง ก่อเกิดประโยชน์และความสุขแก่พสกนิกรชาวไทยอย่างทั่วหน้า “นอกจากนิทรรศการเย็นศิระ เพราะพระบริบาลแล้ว ยังได้จัดแสดงนิทรรศการที่เป็นพิพิธภันฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต เกี่ยวกับการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ ในเรื่องของดิน น้ำ ป่าไม้ และอาชีพ ซึ่งจำลองจากของจริงในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศที่ผ่านการศึกษาทดลองจนได้รับผลสำเร็จแล้วจากโครงการอันเนื่องจากพระราชดำริและศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทั้ง 6 แห่งทุกภูมิภาคทั่วประเทศมาจัดแสดงให้ประชาชนได้ชมอีกด้วย” นางศศิพร ปาณิกบุตร กล่าวสำหรับนิทรรศการ “เย็นศิระ เพราะพระบริบาล” จะเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ตั้งแต่ 7.00 น. – 19.00 น. ของทุกวัน ไม่มีวันหยุด หากเดินทางมาเป็นหมู่คณะจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำในการเข้าชม โดยติดต่อแจ้งแก่เจ้าหน้าที่เป็นการล่วงหน้าได้ และสามารถโทรสอบถาม รายละเอียดเพิ่มเติมในการเข้าชมได้ที่ 1899 สำหรับประชาชนที่กราบถวายบังคมพระบรมศพเรียบร้อยแล้ว มีความประสงค์จะกลับมาชมนิทรรศการอีกครั้ง สามารถขึ้นรถบริการซึ่งจัดไว้ให้ ณ จุดจอดหน้ามหาวิทยาลัยศิลปากร เพื่อกลับมาชมนิทรรศการเย็นศิระ เพราะพระบริบาล ณ ท้องสนามหลวงได้ โดยรถจะให้บริการ. "ฟรี" ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น.ค่ะ -----------------------------------