นาย เซบาสเตียน บาแซ็ง ประธานกรรมการและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารแอคคอร์ กล่าวถึง ผลประกอบการไตรมาส 3 ว่า ยังมีแนวโน้มเป็นบวก สามารถสร้างความเติบโตทั้งในส่วนของรายได้ จำนวนโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการพัฒนา สร้างความคืบหน้าในการขายอสังหาริมทรัพย์คงเหลือ และมีการเปิดตัว ALL ซึ่งเป็นแพล็ตฟอร์มใหม่สำหรับการจัดจำหน่ายและโปรแกรมสมาชิกในอนาคตอันใกล้ โดยรายได้ของบริษัทประจำไตรมาสที่สามของปี 2019 อยู่ที่ 1,049 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 10.9% ตามรายงาน และ 4.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนRevPAR เพิ่มสูงขึ้น 0.7% ขณะที่ ผลการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค ยุโรปยังคงยืนหยัดอย่างแข็งแกร่ง (+1.2%) ในขณะที่เอเชียแปซิฟิกมีการปรับตัวลงเล็กน้อย (-1.1%) อันเป็นผลกระทบจากสภาพแวดล้อมในตลาดประเทศจีนเป็นหลัก ซึ่งความเปลี่ยนแปลงในขอบข่ายการควบรวมกิจการ (การเข้าซื้อและขายกิจการ) มีผลกระทบในเชิงบวกด้วยมูลค่า 49 ล้านยูโร (+5.2%) ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจของ Movenpick ที่มีการควบรวมกิจการตั้งแต่เดือนกันยายน 2018 ส่วนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนส่งผลในทางบวก คิดเป็นมูลค่า 15 ล้านยูโร (+1.6%) อันเนื่องมาจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับเงินยูโรเป็นหลัก ทั้งนี้ช่วงระหว่างไตรมาสที่สาม ทางแอคคอร์ ได้เปิดโรงแรมทั้งหมด 60 แห่ง รวมเป็นจำนวนห้องพัก 8,500 ห้อง จนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2019 ทางบริษัทมีจำนวนห้องพักรวมทั้งสิ้น 726,345 ห้อง ใน 4,946 โรงแรม และมีโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาทั้งสิ้น 1,181 โรงแรม คิดเป็นจำนวนห้องพัก 205,000 ห้อง โดยมีรายได้รวมทั้งหมดในไตรมาสที่สามของปี 2019 รวม 1,049 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 4.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (LFL) และสูงขึ้น 10.9% ตามรายงาน เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สามของปี 2018