ทรงสร้างประโยชน์สุขสู่ปวงประชา เยาวชนเดินตามพระราชดำริ “ภูมิใจที่วันนี้ได้เข้ามาเรียนรู้หลักการทรงงาน” (2) เสกสรร สิทธาคม [email protected] ในความตั้งใจของสำนักงานกปร.หวังว่าเมื่อเยาวชนนักศึกษาได้เรียนรู้แนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9พอสมควรเป็นเบื้องต้น ย่อมเป็นแรงจูงใจให้สามารถเดินตามรอยพระยุคลบาทของพระองค์ท่านที่ทรงงานหนัก โดยทรงศึกษาค้นคว้าทดลองจนทรงประจักษ์ถึงผลว่าต้องเป็นไปตามนั้น โดยตลอดเวลาแห่งการครองราชย์ 70 ปีได้เสด็จฯพื้นที่ต่างๆทั่วทั้งประเทศเพื่อทอดพระเนตรทุกข์สุข เพื่อทรงดูแลความทุกข์ยาก ของราษฎรชาวไทย เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆที่ราษฎรในพื้นที่นั้นประสบพบเจอ และเพื่อที่จะทรงสร้างขวัญกำลังใจให้ราษฎรของพระองค์ คือการทรงลงพื้นที่ปฎิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง สำนักงานกปร.นำเยาวชนไปสัมผัสแหล่งน้ำเป็นลำคลองสำคัญต่างๆในกทม. แล้วไปเรียนรู้ถึงพระมหากรุณาธิคุณเรือง“ฝนหลวง...ต่อชีวิตให้สายน้ำ” ในโครงการปฏิบัติ การฝนหลวงตามแนวพระราชดำริซึ่งเกิดขึ้นจากพระราชหฤทัยห่วงใยเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเมื่อยามเกิดภัยแล้ง สำนักงานกปร.พานักศึกษาไปสัมผัส“แหล่งกักเก็บน้ำขนาดใหญ่...เพื่ออนาคต เพื่อการใช้น้ำอย่างยั่งยืน” คือ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ฯ อันเป็นเขื่อนดินกักเก็บน้ำที่ยาวที่สุดในประเทศไทยตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลที่9  เพื่อประโยชน์ในการป้องกันปัญหาน้ำท่วม ในบริเวณลุ่มแม่น้ำป่าสักในฤดูน้ำหลาก และช่วยเกื้อกูลบรรเทาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ฯสามารถบรรเทาปัญหาได้ทั้งบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง และบริเวณกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในโครงการคราวนี้น้องๆเยาวชนจากมหาวิทยาลัยต่างๆมีโอกาศเดินตามรอยพระยุคลบาทไปที่จังหวัดสระบุรี ไปที่โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณวัดมงคลชัยพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลห้วยบง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ เรียนรู้ในหัวข้อ แหล่งน้ำคือหัวใจ...สร้างอาชีพต่อได้ ด้วยสองมือเราซึ่งโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณวัดมงคลชัยพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  แห่งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการทำการเกษตรตามแนวพระราชดำริทฤษฎีใหม่แห่งแรกที่เป็นต้นแบบให้แก่เกษตรกรทั่วประเทศในการบริหารจัดการน้ำและที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด แล้วเยาวชนมีโอกาสไปที่โครงการห้วยโสมงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรีที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นโครงการแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริแห่งสุดท้ายที่พระราชทานในห้วงเวลาแห่งการครองราชย์ 70 ปีที่เก็บกักน้ำได้อย่างสมบูรณ์แบบเมื่อเดือนสิงหาคม 2559เพื่อเรียนรู้ขั้นตอนการดำเนินงานของการก่อสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ จากโครงการห้วยโสมงฯ รุ่นนี้มีโอกาสไปเยือนศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเยาวชนได้เรียนรู้หลักการทรงงานในรูปแบบการพัฒนาอาชีพ พัฒนาคุณภาพชีวิตแบบเบ็ดเสร็จหรือที่เรียกว่าone stop serviceจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ แห่งนี้ที่ทำหน้าที่ในการศึกษาทดลอง สาธิต วิจัยและพัฒนาตามแนวพระราชดำริในทุกด้าน ทั้งด้านการเกษตร ปศุสัตว์ ประมง ตลอดจนการพัฒนาทางด้านสังคม และงานศิลปาชีพในลักษณะของ“พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต” เยาวชนทั้งหมดได้รับความรู้อย่างครอบคลุมทุกด้านอันจะสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้ไปปรับใช้เพื่อพัฒนาตนเองและช่วยสังคมต่อไปด้วย โครงการที่สำนักงานกปร.ดำเนินการแทบทุกครั้งมีโอกาสได้ไปร่วมกิจกรรม จึงได้เห็นเยาวชนทุกรุ่นที่เข้าร่วมโครงการ รวมถึงรุ่นนี้ทั้ง 80 คนได้เห็นว่าส่นวใหญ่ให้ความสนใจร่วมเรียนรู้แนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 อย่างมาก ตั้งแต่รับฟังการบรรยายเพื่อซึมซับข้อมูลพื้นฐานเบื้องต้น ลงมือปฏิบัติในพื้นที่จริง น้องๆนักศึกษาทุกคนพร้อมให้ความร่วมมือ ซักถามเพื่อนำข้อมูลความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันต่อไป พร้อมกับบอกว่าถ้ามีโอกาสจะเผยแพร่เพื่อให้คนอื่นได้มีโอกาสนำปฎิบัติใช้จริง แต่ละครั้งที่ไปร่วมโครงการพลาดไม่ได้คือพูดคุยกับนักศึกษาถึงความรู้สึกที่มีโอกาสได้มาสัมผัสพระมหากรุณาธิคุณสัมผัสการทรงงานผ่านผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมต้นแบบการดำรงชีวิตบนวิถีแห่งความดีงามอย่างคราวนี้ได้คุยหลายคน นางสาวพัชรา มีทา หรือน้องแคท นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ เล่าให้ฟังถึงการได้เข้ามาร่วมเข้าค่ายครั้งนี้ว่า ส่งโครงการเกี่ยวกับน้ำเข้ามาประกวดและได้รับการคัดเลือกให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในโครงการนี้ รู้สึกดีมากภูมิใจ ที่ได้มาเข้าค่ายเพื่อเรียนรู้แนวพระราชดำริ และงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถ้าเราอยู่บ้านเฉยๆก็จะไม่ได้รู้อะไร แต่พอเรามาครั้งนี้เราได้รู้อย่างเจาะลึกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงงานอย่างไร ทรงงานหนักแค่ไหน และสิ่งที่พระองค์ทำมีประโยชน์ต่อประชาชนมามากขนาดไหน เราสามารถนำกลับไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันของเราได้ ว่าเราควรทำอะไรอย่างไร เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนร่วมต่อเพื่อนต่อพ่อแม่ได้บ้าง “ได้รับความรู้มากมากแต่สิ่งที่จะนำไปบอกต่อกับชุมชนและให้พ่อแม่ปฎิบัติตาม คือความรู้เรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่ฯ เพราะที่บ้านก็เดินตามในหลวงเรื่องนี้ แต่จะนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้อีกให้ถูกวิธี วันนี้ได้รู้เลยว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงงานเพื่อประชาชนอย่างมากมาย ท่านทรงงานเพื่อประชาชนในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเกษตร การปกครอง พระองค์ทรงทำงานเพื่อพวกเรามาอย่างยาวนานและหนักมาก รู้สึกซาบซึ้งในตัวพระองค์ท่านมาก รักพระองค์มาก เพราะท่านเมตตา ทำเพื่อส่วนร่วมไม่ใช่ทำแค่ประโยชน์ส่วนตัว หนูรักท่านมาก” นางสาวพัชรา มีทา กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ ความรู้สึกของน้องแคทไม่ต่างกับน้องโอม นราธิป ปุปผาทองนักศึกษาจาก มหาวิทยาลัยรามคำแหง และน้องเบล ธนันธร เพชรเชนทร์ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ที่มีความรู้สึกภาคภูมิใจและดีใจไม่ต่างกัน (อ่านต่อ)