ชี้เป็นสิทธิ์ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ทุกคน แม้จะยังใช้สวัสดิการจากกองทุนฯ อยู่ตาม พร้อมเชิญ สปสช.และประกันสังคม หาริือ ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงจากการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (บอร์ด กช.) ว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ได้เสนอให้บอร์ด กช.ได้พิจารณาเรื่องการปรับปรุงสวัสดิการกองทุนสงเคราะห์ว่า ด้วยเงินสวัสดิการสงเคราะห์ผู้อำนวยการ ครู และบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนเอกชน ซึ่งเดิมกองทุนดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ใน 3 ด้าน คือจ่ายเป็นเงินทุนเลี้ยงชีพ จ่ายเป็นค่าศึกษาบุตร และค่ารักษาพยาบาลให้กับบุคลากรของโรงเรียนเอกชน แต่ครั้งนี้ สช.ได้เสนอให้บอร์ด กช.พิจารณาเฉพาะสวัสดิการที่เกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น เนื่องจากเห็นว่ามีผู้ที่ได้รับการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง ซึ่งในแต่ละปีสามรถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ 100,000-125,000 บาท แต่บางรายมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่านี้มาก ดังนั้น จึงเสนอทางเลือกให้เข้าร่วมรับสิทธิ์ด้านการรักษาพยาบาล 30 บาทรักษาทุกโรค ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งจะสามารถดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลได้มากกว่าแทน "ทางกองทุนฯ ระบุว่าหากใครใช้สวัสดิการกับกองทุนฯ อยู่จะไม่สามารถไปใช้สวัสดิการ 30 บาทรักษาทุกโรคของ สปสช.ได้ แต่ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะประธานบอร์ด กช.เห็นว่าหลักประกัน 30 บาทรักษาทุกโรค น่าจะเป็นสิทธิ์ที่ประชาชนคนไทยสามารถเข้าถึงได้ทุกคน แม้จะยังใช้สวัสดิการจากกองทุนฯ อยู่ ดังนั้น รมว.ศึกษาธิการ จึงมอบให้ สช.เชิญ สปสช. และสำนักงานประกันสังคม มาหารือในรายละเอียดร่วมกัน ก่อนนำข้อมูลที่ได้มาเสนอให้บอร์ด กช.ได้พิจารณาเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด ให้กับบุคลากรของโรงเรียนเอกชนต่อไป"ปลัด ศธ.กล่าว